วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560

[OS] (yoonmin) KIDDING [Yoongi's Birthday 2017]



KIDDING





TITLE : KIDDING
RELATIONSHIP : YOONGI x JIMIN [YOONMIN] 
GENRE : AU
RATE : PG 
WORDS : 3,483 words


 8 มีนาคม / 8 : 00 น.
                หาว~
                บิดขี้เกียจด้วยความเมื่อยล้าที่หวังว่ามันจะหายไป ก่อนจะก้มลงและ.. นอน
                แน่นอนว่า มินยุนกิ เป็นคนไม่แคร์ใครอยู่แล้วและนอนได้ทุกที่ถึงแม้ว่าจะเป็นโต๊ะโรงอาหารคณะอย่างที่เขากำลังใช้สอยอยู่นี่ก็ตาม
                ก็เมื่อคืนดันแต่งเพลงเพลิน จนรู้ตัวอีกทีก็ตีห้ากว่าไปแล้ว
                นอนไปได้สักพักก็มีแรงสะกิดอย่างรุนแรง(?)จนเขาสะดุ้ง
                ห่า! ใครวะแม่ง
                หันขวับไปมองตาขวางก่อนจะเห็นไอ่แฟนตัวเตี้ยกำลังตาแป๋วมาอยู่
                อะไรอ่ะพี่ ทำไมมองงั้น คนแค่จะชวนไปซื้อข้าวเองนะคนตัวเล็กเมื่อเห็นแฟนขี้เซาทำตาขวางใส่ก็แบะแกงอน
                “อย่ามายุ่งน่าจีมิน พี่จะนอน” ว่าตัดด้วยน้ำเสียงติดรำคาญก่อนจะก้มลงนอนเหมือนเดิม
                “น่า~ พี่กิ ไปซื้อของกินเล่นกันก็ได้ แป๊ปเดียวเองน้า” ร่างเล็กตื้อก่อนจะเขย่าไหล่คนที่หลับอยู่เบาๆ
                .....”
                “พี่กิ! อย่าเมินกันงี้ดิ่ ไปกัน~
                “.....” ไม่มีเสียงตอบรับ จากเลขหมายที่ท่านเรียก..
                “ไอ้พี่กิ!
                “.....”
                “พี่! จะไม่สนใจกันเลยอ่อ!” จีมินเลิกเขย่าแขนคนพี่มาเท้าเอวตัวเอง แต่ก็ไร้สัญญาณตอบรับเช่นเดิม ได้~ จะเมินกันอย่างงี้ใช่ปะ ได้ จำไว้เลยนะมินยุนกิ!”
                พูดจบก็สะบัดตูดเดินออกจากโรงอาหารไปด้วยความโกรธ
                ฮ๊า~ ต้องเงียบๆอย่างนี้สิ่ถึงจะนอนสบาย เขาคิด
                โดยที่ไม่รู้เลยว่า ความซวยกำลังมาเยือน...




                “จีมิน ไปกินข้าวกัน”
                “แทแท~ ไปกินข้าวกันเถอะ”

                “จีมิน ถึงเวลาเรียนเราแล้วนี่ ป่ะเดี๋ยวพี่ไปส่ง”
                “แทแท~ ไปส่งเค้าเข้าคลาสหน่อยจิ”

                “จีมิน--”
                “แทแท~--”

                โว้ยยยยยยยยย!!!
                วันนี้ทั้งวันแล้วพัคจีมินไม่สนใจเขาเลย เมื่อยุนกิเรียกก็เมินแล้วไปเล่นกับคิมแทฮยองเพื่อนรุ่นเดียวกันกับจีมินคนนึงในกลุ่ม และเขาจะไปอารมณ์เสียขนาดนี้เลยถ้า..
                “แทแท~ ป้อนเนื้อเค้าโหน่ย~
                จำเป็นต้องอ้อนขนาดนั้นมั้ยล่ะปาร์คจีมิน!! ไอ่คนโดนอ้อนก็ไม่ปฏิเสธเลยนะทั้งๆที่แฟนเขาก้หัวโด่อยู่เนี่ย!!!
                “ไอ้กิ ไม่กินหรอวะ?
                คิมนัมจุน เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มถามขึ้นมาหลังจากเห็นยุนกินั่งแผ่รังสีทมึนใส่แฟนตัวเองมานาน
                “กูไม่หิว” เขาตอบโดยที่สายตาก็ยังไม่ละออกจากสองคนที่นั่งออดอ้อนกันอยู่
                วันนี้กลุ่มของพวกเขาทั้ง 7 คน ก็มี คิมซอกจิน ปีสาม คิมนัมจุน จองโฮซอก มินยุนกิ ปีสอง จอนจองกุก คิมแทฮยอง และพัคจีมิน แฟนของเขา อยู่ปีหนึ่ง นัดกันมากินเนื้อย่าง เนื่องในโอกาสที่พี่ซอกจินอยากกินเพราะหมอเรียนหนัก (แม่งเกี่ยวไรวะ --) เลยนัดกันมากลุ่มซึ่งก็ว่างตรงกันพอดี และเขาก็นั่งมองจีมินมาชั่วโมงกว่าจนตอนนี้สามทุ่มได้แล้ว คนตัวเล็กก็ไม่มีท่าทีจะสนใจอะไรเขาเลย แถมซ้ำยังไปอ้อนคิมแทฮยองอีก
                ทนไม่ไหวแล้วเว้ย!!!!
                เขาลุกออกจากที่นั่งของตนเอง พร้อมทั้งดึงแขนจีมินที่นั่งอ้อนเพื่อนตัวเองอยู่ออกมาด้วย แล้วเดินไปทางหลังร้านที่ลับตาผู้คน
                “พี่กิ! ลากผมมาทำไมเนี่ย!” เมื่อยุนกิปล่อยร่างเล็กก็โวยวายทันที คิดดูว่าเนื้อกำลังเข้าปากอยู่แล้วเชียวแต่อยู่ๆก็โดนลากออกมาอ่ะ โคตรอารมณ์เสียเลย!
                “ทำไม จะไปอ่อยอะไรแทฮยองอีกล่ะ!!
                “....” จีมินเงียบไปด้วยความตกใจที่คนพี่ตะคอกใส่ตนเอง ก่อนจะตะคอกกลับ “มันก็เรื่องของผม!!
                ในขณะนั้นเพื่อนอีกห้าคน เมื่อเห็นยุนกิอารมณ์ร้อนลากจีมินออกมาก็เป็นห่วงว่าจะเกิดอะไรร้ายแรงขึ้น จึงเดินตามมา โดยที่ทั้งสองคนที่ทะเลาะกันอยู่ไม่ได้สนใจเลย
                “งั้นหรอ! ผัวคนเดียวไม่พอเลยอยากมีอีกคนงั้นสิ่!!
                ผลั้วะ!!
                กำปั้นของอีกฝ่ายกระทบหน้าเขา
                “พี่อย่ามาพูดแบบนี้กับผมนะ!!” จีมินกำมือแน่น “พี่สนใจผมบ้างปะล่ะ! สนใจแต่ตัวเอง! พี่ไม่แคร์ผมบ้างเลยหรอว่าผมจะรู้สึกยังไง
                “.....”
                “พี่ไม่สนใจผมเลย.. ไม่สนใจกันจนผมรู้สึกว่า เมื่อห้าเดือนที่แล้ว ผมคิดผิดที่เลือกพี่แทนที่จะเลือกแทฮยอง..”
                น้ำตาของคนตรงหน้าไหลออกมา และวิ่งฝ่าบรรดาเพื่อนอีกห้าคนออกไป..
                เขามองตามคนตัวเล็กที่วิ่งไป ทั้งตัวแข็งทื่อราวกับขยับตัวไม่ได้

                แทฮยองหันมามองเขาด้วยสายตาที่ผิดหวัง ก่อนจะวิ่งตามจีมินออกไป พร้อมกับจองกุกและซอกจินที่ออกไปตามลำดับ
                “เฮ้ย มันแรงไปหรือเปล่าวะ?”
                โฮซอกพูดกับเขา แล้วเดินออกไปพร้อมกับนัมจุน จนเหลือเขาอยู่คนเดียว
                เพื่อทบทวน ในสิ่งที่เพิ่งจะทำร้ายคนรักของตนเองไป..
                หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้นยุนกิก็ขอตัวกลับมาที่ห้องก่อน เขาใช้การเดินเพราะร้านที่ไปกับหอของเขาอยู่ไม่ห่างกันมาก เดินทบทวนเรื่องราวต่างๆระหว่างเขากับคนรักไปเรื่อย จนมาถึงหน้าห้องของตนเองโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่จะหยิบกุญแจไขประตูเข้าไปในห้อง..ที่ปิดไปมืด
                คิดไว้แล้วว่าจีมินคงไม่กลับมา
                เขากับจีมินเป็นรูมเมทกัน เพราะเนื่องจากบ้านเกิดของเขาและจีมินอยู่ต่างจังหวัดทั้งคู่ และไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อคอนโดส่วนตัวอยู่ เขาสองคนเลยได้อยู่ห้องเดียวกัน และทำให้ยุนกิเริ่มชอบจีมิน..
                ยิ้มน้อยๆเมื่อนึกถึงความทรงจำเก่าๆ ทำเหมือนตัวเองกับคนรักเลิกกันเลยเนอะ แต่ถึงไม่เป็นอย่างนั้น เขากับจีมินก็ไม่เคยทะเลาะกันหนักขนาดนี้มาก่อน
                และเขากลัว กลัวว่าจีมินจะบอกเลิกยุนกิแล้วไปเลือกแทฮยองจริงๆ
                เขาเดินไปที่เตียงทั้งที่ยังไม่เปิดไฟ ก่อนจะนอนลงไป ในหัวก็พลันนึกถึงคำพูดของอีกคน
                “พี่สนใจผมบ้างปะล่ะ! สนใจแต่ตัวเอง! พี่ไม่แคร์ผมบ้างเลยหรอว่าผมจะรู้สึกยังไง
            “พี่ไม่สนใจผมเลย.. ไม่สนใจกันจนผมรู้สึกว่า เมื่อห้าเดือนที่แล้ว ผมคิดผิดที่เลือกพี่แทนที่จะเลือกแทฮยอง..”
                แล้วอยู่ดีๆน้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว..
                เพราะมินยุนกิเป็นผู้ชายเย็นชาไม่ค่อยสนใจโลก และค่อนข้างปากร้ายและโมโหรุนแรง จนลืมคิดไปว่าบางทีจีมินก็โกรธเป็น
                “ขอโทษนะจีมิน.. ขอโทษจริงๆ”
                พูดออกมาทั้งๆที่รู้ว่ายังไงอีกฝ่ายคงจะไม่ได้ยิน ป่านนี้คงอยู่กับแทฮยอง ไม่ก็จองกุก แต่เขาก็แค่อยากพูด บางทีสายลมอาจจะใจดีพามันไปถึงจีมินก็ได้..
                ถามว่าทำไมเขาไม่ไปขอโทษแล้วง้อจีมิน ..ไม่รู้สิ่ แค่รู้สึกว่าตอนนี้เราทั้งสองคนคงยังมีสภาพอารมณ์ไม่คงที่ ถ้ายังดันทุรังไปเจอหน้ากันตอนนี้มันอาจจะแย่ลง แย่ในแบบที่เขากลัว
                เพราะจีมินเป็นคนใจเย็น
                และจีมินไม่ใช่คนร้องไห้ง่าย
                แต่วันนี้เขาทำให้คนรักทนไม่ไหวและร้องไห้ออกมา
                มินยุนกิทำให้คนรักของตัวเองเจ็บปวด
                มินยุนกิเป็นผู้ชายที่เลว..

                ติ๊ดติ๊ด ติ๊ดติ๊ด
                ‘  9 Mar 00:00 ’
                คิดอะไรไปเรื่อยจนนาฬิกาตีบิอกเวลาเที่ยงคืน 9 มีนาคม.. อ่า วันเกิดเขานี่นา ปีที่คิดว่าคงจะมีจีมินมาร่วมในงานวันเกิดด้วยกัน แต่คงจะไม่แล้วล่ะ--
                แกร๊ก!
                เสียงแกร๊กเหมือนคนไขกุญแจที่ประตูดัง ทำให้เขาที่นอนอยู่รีบลุกขึ้นมาเพราะคิดไปเองว่าเป็นโจร แต่ทว่าเมื่อประตูถูกเปิดออกมา..
                แซงอิลชุกฮาฮัมนีดา แซงอิลชุกฮาฮัมนีดา ซารังฮานึนมินยุนกิ แซงอิลชุกฮาฮัมนีดา~
                จีมินคนรักของเขาที่เพิ่งทะเลาะกันรุงแรงไปเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ ตอนนี้ถือเค้กนำเข้ามาตามด้วยเพื่อนอีกห้าคนในกลุ่ม ทำให้ยุนกิตอนนี้ ยืนค้างด้วยความงง
                “พวกนาย..?
                “อย่าเพิ่งงงสิ่พี่กิ เป่าเค้กก่อนเร็ว เดี๋ยวเทียนดับนะ จีมินว่าพร้อมรอยยิ้มน่ารัก
                เมื่อคนตรงหน้าบอก เขาจึงหลับตาอธิษฐานก่อนจะเป่าเค้ก
                ฟู่ว!
                พรึ่บ!
                เมื่อยุนกิเป่าเค้กเสร็จ ไฟก็เปิดขึ้นมาทำให้จีมินเห็นหน้าคนพี่อย่างชัดเจน ว่ามีคราบน้ำตาติดอยู่
                “ไม่ต้องร้องไห้แล้วพี่..” คนตัวเล็กเอื้อมมือข้างหนึ่งที่ไม่ได้ถือเค้กไปเช็ดน้ำตาให้คนพี่ และยิ้มให้ “สุขสันต์วันเกิดนะพี่ยุนกิ”
                “ช่าย~~ สุขสันต์วันเกิดนะเพื่อนเลิฟ~” โฮซอกพร้อมกระโจนเข้าไปหมายจะกอดยุนกิ แต่ดีที่เขาหลบทัน
                “ว่าแต่พวกนาย..มาได้ไงกัน” ยุนยังคงงงอยู่ “จีมินนายไม่โกรธพี่แล้วใช่มั้ย”
                เขาเดินเขาไปจับมือทั้งสองของจีมินที่วางเค้กเสร็จเรียบร้อยแล้ว
                “พี่พูดอะไรน่ะ ผมไม่ได้โกรธพี่สักหน่อย~
                “....” เอ๋อเลย
                “คิก~ พี่นี่เข้าใจยากจัง น้องแค่แกล้งไง~
                “หมายความว่า...”
                “หมายความว่าเรากับจีมินร่วมมือกันจัดแผนเซอร์ไพรส์วันเกิดนายไงน้องชายที่รัก~” ซอกจินพูดก่อนจะยิ้มแป้น และนำขนมที่ถือติดมือมาเข้าปาก... เอ่อ... - -
                หมายความว่าไงพัคจีมินเล่ามาเลยนะ”
                เมื่อเขาเริ่มเข้าใจเรื่องทั้งหมดจึงหันมากดดันให้เจ้าตัวเล็กเล่าความจริง
                “อะไรอ่า พี่อย่ามองจีมินอย่างนั้นสิ่ เค้าก็แค่...”


                หลังจากที่จีมินงอนตุ๊บป่องออกมาจากโรงอาหารเนื่องจากแฟนไม่สนใจก็เลยตัดสินใจเดินกลับคณะทิเทศน์ คณะที่ตนเองเรียน แต่ดันเจอเพื่อนๆพี่ๆกำลังยืนคุยกันหน้าเครียดอยู่จึงเข้าไปทัก
                “พวกพี่ ทำไรกันอยู่อ่ะ!
                “อุ้ย! ตกใจหมด” ด้วยความที่จีมินเข้ามาพูดเสียงดังทั้งที่ทุกคนเงียบอยู่จึงทำให้จองกุกสะดุ้งอุทานออกมา
                เจ้ากระต่ายยักษ์ขี้ตกใจเอ๊ย~!
                “ว่าแต่ทำอะไรกันอยู่หรอ หน้าเครียดเชียว” ซึ่งจีมินก็หาได้สนใจไม่
                “พวกเรา.. เอ่อ คือ..” นัมจุนเอ่ยขึ้นมาโดยไม่แน่ใจ ก็พวกเขาไม่อยากให้จีมินรู้ เพราะไม่อย่างนั้นมันก็เสี่ยงต่อการที่ยุนกิจะรู้ด้วยน่ะสิ่
                “ผมว่า..” แทฮยองเอ่ยขึ้นมา ทำให้ที่เหลือหันมองไปที่เจ้าของเสียง “ให้จีมินช่วยสมจริงกว่านะ”
                “อืม ก็น่าจะจริง..”
                “ช่วยอะไรหรอฮะ?” จีมินที่เห็นว่าตนเองอยู่ในบทสนทนาก็สงสัยหันไปถาม
                “คือว่า...วันพรุ่งนี้วันเกิดยุนกิจำได้ใช่มั้ย?” โฮซอกถาม
                “ฮะ..”
                “แล้วคือทุกปีอ่ะ พวกพี่ไม่เคยเซอร์ไพรส์วันเกิดมันได้สำเร็จสักครั้งเลย มีมันคนเดียวที่ไม่เคยถูกแกล้งเซอร์ไพรส์ได้อ่ะ  เข้าใจใช่ป่ะ?” จีมินพยักหน้า “พวกเราก็เลยคิดกันอยู่ว่าจะทำยังไงดีน่ะ”
                “อ๋อ..”
                “แล้วเราคิดอะไรออกบ้างมั้ย?” ซอกจินถาม
                “อืม..” คนตัวเล็กคิดอยู่สักพักก่อนจะปิ๊งไอเดียออกมา “เมื่อกี้พี่ยุนกิเมินผม”
                “ห้ะ!?” ทั้งห้าคนก็งงสิ่ครับ คิดแผนวันเกิดเกี่ยวอะไรกับน้องมันโดนเมินวะ?
                “ก็จีมินจะแก้แค้นด้วยเลย พร้อมกับเซอร์ไพรส์วันเกิดไปด้วยไง~
                “จะดีหรอ?” นัมจุนว่า
                “ดีสิ่พี่! คิดดูนะ ถ้าพี่กิเครียดจะไม่มีเวลามาคิดเรื่องพวกนี้หรอก ใช่มั้ยล่า~
                “งั้นหรอ..” โฮซอกคิดตาม “แล้วเราจะเริ่มตอนไหนล่ะ?
                “ก็ตอนนี้แหล่ะพี่”
                “ห๊า! เอาเลยหรอ?
                “แล้วพวกพี่จะเริ่มพรุ่งนี้รึไงเล่า~! พี่ยุนกิจับได้กันพอดี”
                “อ่ะ โอเคๆ” นัมจุนยกมือขึ้นยอมแพ้ “ว่าแต่เรามีแผนยังไงล่ะ?
                “อ้อ แผนก็คือว่า.............”
                แล้วเจ้าคนคิดแผนก็เล่าให้อีกห้าคนฟัง
                “จะดีแน่หรอจีมิน” นัมจุนถามอีกครั้ง
                “ใช่จีมิน พี่ว่าเราควรเปลี่ยนนิดหน่อยนะ คือเฉลยตอนเช้ามันไม่น่าจะเวิร์ค” ซอกจินว่า “เพราะพรุ่งนี้ยุนกิมีเรียนบ่ายนี่ ใช่มั้ยล่ะ ใช่มั้ยนะโฮซอก?
                “ใช่ๆ”
                “อื้ม นั่นล่ะ แล้วเจ้านั่นก็อาจจะเครียดจนนอนไม่หลับยันเช้า แล้วพอเราเฉลย มันก็สบายใจแล้วก็ไปหลับในคลาสน่ะสิ่”
                “งืมๆ” โฮซอกพยักหน้า “เจ้านั่นยิ่งรักการนอนอยู่ด้วย”
                “งั้นเราก็เปลี่ยนเวลาสะสิ่ครับ เที่ยงคืนไปเลยเป็นไง พี่เค้าจะได้ไม่ต้องเครียดนานด้วย สงสารพี่เค้า” จองกุกว่า พร้อมกับทุกคนที่พยักหน้าเห็นด้วย
                “มะ..ไม่ใช่ คือ...” นัมขุนแย้งขึ้นอีกครั้ง “ที่ฉันกังวลคือเราจะให้แทฮยองจริงๆหรอ มันเคยชอบนายมาก่อนนะจีมิน”
                “นั่นแหล่ะพ้อยท์เลยฮะพี่นัมจุน~” จีมินว่าพร้อมยิ้มตาหยี
                “นั่นสิ่ ไม่กลัวฉันกลับไปชอบนายอีกครั้งหรอพัคจีมิน~” แทฮยองเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
                “ก็ฉันรู้ว่านายไม่ได้ชอบฉันจริงจังน่าคิมแทฮยอง ฉันตอนนั้นก็เลยใจเอนเอียงไปที่พี่ยุนกิไง~ อีกอย่าง..” ทุกคนหันมาพร้อมกับแววตาสงสัย “ฉันรู้ว่าตอนนี้นายไม่มีทางมาชอบฉันแล้วน่า~” (เรื่องนี้พี่ยุนกิไม่รู้นะ จุ๊ๆไว้)
                “เอ๊ะ?
                “เนอะ จองกุกกี้~” จองกุกเมื่อเห็นจีมินยิ้มมาให้จึงยิ้มมุมปากตอบกลับไป ก่อนจะหันไปมองแทฮยองที่หน้าแดงอยู่
                “แหน่ะๆ อะไรกันเจ้าพวกนี้ มีอะไรไม่บอกพวกพี่เลยน้า~” ซอกจินเอ่ยแซว
                “มะ..ไม่มีอะไรนี่พี่” แทฮยองแก้พร้อมกับปัดมือพัลวัน
                แต่ว่าใครจะเชื่อล่ะสังคม ก็เจ้าตัวหน้าแดงซะขนาดนั้น
                “อ่ะจ้า~ ไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไร” จีมินล้อ “ว่าแต่ห้ามลืมแผนกันนะฮะ นายด้วยคิมแทฮยอง ทำตัวแมนๆเหมือนเมื่อก่อนนี้หน่อย”
                “ฉะ..ฉันแมนเหมือนเดิมเว้ย!!
                “อ่าหะ~ แมนก็แมนคร้าบ แต่ช่างเรื่องนั้นไปก่อน ตอนนี้เราจะแกล้งพี่ยุนกิกัน!



                “ก็แค่นั้นแหล่ะฮะฮยอง” จีมินว่าตาใสซื่อ
                “ไอ้แสบเอ้ย~~!” เขายีหัวเข้าตัวแสบ หมั่นเขี้ยวนัก
                “คิก~ ก็พี่มัวแต่นอนเองนี่นา” ร่างเล็กมองคนพี่ตาวาว “ว่าแต่เป็นไงมั่ง ผมแสดงดีมั้ยฮะ~?
                “ครับ~ ดีมาก จนพี่เชื่อหมดใจเลยเนี่ย ไหนจะน้ำตานั่นอีก พี่ตกใจแทบแย่แหน่ะ”
                “อันนั้นน้ำตาของจริงพี่ พี่ว่าผมโคตรแรงอ่ะ เจ็บกระดองใจมาก” จีมินตีหน้ามุ่ย
                “โอ๋ๆ พี่ขอโทษ ก็พี่หึงอ่ะ” เขาดึงจีมินเข้ามากอดเบาๆ ก่อนจะผละออก “ต่อไปนี้พี่จะสนใจเราให้มากขึ้น ใส่ใจเราให้มากขึ้น ถ้าจีมินไม่พอใจอะไรพี่บอกมาได้เลยนะ”
                “ฮ่าๆ พี่ก็ไม่ได้ไม่สนใจอะไรผมขนาดนั้นสักหน่อย” ร่างเล็กหัวเราะเบาๆ “ว่าแต่พี่พูดจริงนะ!
                “อื้ม จริงสิ่ พี่จะโกหกเราทำไมกัน” ยุนกิพูดยิ้มๆ ก่อนจะดึงคนรักเข้ามากอดอีกครั้ง
                “เอ่อ.. ว่าแต่เราจะกินเค้กกันเมื่อไหร่?” คิมซอกจินที่นั่งดูคู่รักสวีทกันนานเกินไปได้ท้วงขึ้นมา
                ซึ่งนั่นก็ทำให้มินยุนกิส่งสายตาพิฆาตมาให้
                แต่ใครสนกันล่ะ เขาเป็นพี่นะทำไมต้องกลัวมัน :P
                “กินกันเลยก็ได้ฮะ” จีมินผละออกมาจากอ้อมกอดของคนพี่พร้อมทั้งดึงแขนให้ลงมานั่งล้อมวงตามคนอื่นด้วยก่อนที่จะหยิบมีดให้ยุนกิตัด
                เขารับมีดมาตักเค้ก เมื่อเสร็จจึงแจกจ่ายกันไปคนละชิ้น และก็ยกเว้นคิมซอกจินอีกเหมือนเคยที่เอาไปสองชิ้น - -
                “ว่าแต่ ไม่มีขนมอะไรเลยหรอ?” อยากกิน..
                และเพราะคำพูดของยุนกิทำให้ทุกคนลืมตาโตอย่างนึกได้ พวกเขาวางขนมไว้ที่หน้าห้องกันนี่
                คิดได้ดังนั้น นัมจุนจึงวิ่งไปหยิบขนมและน้ำเข้ามา (ไม่มีแอลกอฮอลล์ครับ ยังมีเด็กไม่ถึงยี่สิบตั้งสามคน และเขาเองก็เพิ่งจะยี่สิบ)
                ฟอด~!
                “พี่กิ!” อยู่ดีๆยุนกิก็หอมแก้มจีมินทำให้เจ้าตัวโวยวายขึ้นมา
                “ยังไงก็ขอบคุณนะ ที่อยู่ข้างกันมาโดยตลอด” ยุนกิพูดพร้อมมองไปในตาคนน้อง
                “อื้อ รู้แล้วน่า” แต่ทว่าจีมินกลับหลบตา
                ก็เขินนิ่!!!!
                “เฮ้อ~ อิจฉาจังน้า~” แทฮยองเอ่ยขึ้นมาอย่างแซวๆ
                ฟอด~!
                “เฮ้ย!!” เจ้าตัวที่เพิ่งพูดแซวเพื่อนโวยวายขึ้น พร้องกับหน้าที่แดงแปร๊ดเนื่องจากโดนหอมแก้ม และสีหน้างุงงงจากทุกคน โดยเฉพาะมินยุนกิ
                “ก็เห็นบอกว่าอิจฉานี่” จองกุกเอ่ยหน้านิ่งพร้อมกับหันไปตักเค้กเข้าปาก
                “อะ..ไอ้!!
                “น้อว~~ ออกตัวแรงนะเนี่ยจองกุกเรา~” โฮซอกและสหายโสดอีกสองเอ่ยแซว
                “สองคนนั้นมันกิ๊กกันอยู่น่ะพี่” จีมินที่คิดว่าคนพี่คงไม่รู้อะไรจึงกระซิบบอก
                เอ่อ.. ก็พอเข้าใจนะถ้าจะกิ๊กเกิ๊กอะไรกัน แต่.. ตัวหลักวันนี้คือมินยุนกิมั้ยล่ะ!
                “นี่ พี่กิ..” นั่งคุยเล่นกันไปซักพักจีมินก็สะกิดที่ไหลเขาเบาๆ
                “หืม?
                “ขอกอดหน่อย” เจ้าตัวว่าพร้อมกับกางแขนขึ้นมา
                “โอ๋ๆ มา” ยุนกิรับอ้อมกอดพร้อมกับโยกเบาๆ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงไม่ทำ...
                แต่บอกแล้วไง ตั้งแต่ตอนนี้เขาจะเปลี่ยนตัวเอง!
                “ง่วงแล้วหรอเรา หื้ม?
                “งืม~” จีมินขาน พร้อมกับนำหัวซุกอกคนพี่อย่างอ้อนๆ
                “นอนเลยมั้ย?” ยุนกิว่า “ถ้าเกรงใจพวกนั้นก็พิงไหล่พี่ก่อนก็ได้ เราอาบน้ำแล้วนี่ตอนค่ำ”
                “งือ” น้องว่าก่อนจะซบไหล่นอนตามที่อีกคนบอก
                “อ้าว จีมินหลับแล้วหรอ?” จนสักพักนัมจุนหันมาเห็นจึงถาม
                “อืม น้องง่วง”
                “งั้น.. พวกกูกลับเลยก็ได้” นัมจุนว่าพร้อมกับจะหันไปสะกิดอีกห้าคน
                “ไม่เป็นไรๆ พวกมึงนอนกันที่นี่แหล่ะ เล็กหน่อยแต่ก็พอนอนได้ แล้วค่อยกลับพรุ่งนี้” ยุนกิหันมองเพื่อนแต่ละคน “กูรู้พวกมึงก็ง่วงแล้ว”
                “ง่อว~ มินยุนกิ~~~” โฮซอกล้อ ธรรมดามันใจดีกับเพื่อนที่ไหนกัน หล่อเลยอ่ะ!!
                “หรือพวกมึงจะกลับบ้าน!?
                ชมยังไม่ทันขาดคำ
                “นอนนี่คร้าบ~” ที่เหลือว่าพร้อมกับเก็บขนมที่ทำรกไว้ให้เรียบร้อยแล้วล้างหน้าบ้วนปาก (ก็แปรงสีฟันไม่มี TT)
                ทางยุนกิก็อุ้มจีมินที่หลับไปแล้วนอนบนเตียง ก่อนที่ตัวจะลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟันออกมา
                “ปิดไฟแล้วนะ” ยุนกิถามทั้งห้าคนเมื่อทุกคนจัดหาที่นอนของตัวเองกันได้แล้ว
                “อืมๆ ปิดเลย” เมื่อมีใครสักคนว่าอย่างนั้นเขาจึงปิดไป แล้วกลับมานอนบนเตียงของตัวเอง
                “ฝันดีพวกมึง”
                “อื้ม ฝันดียุนกิ ขอให้เป็นวันเกิดที่ดีนะ” โฮซอกว่า ก่อนจะหลับตานอนไป
                แน่นอน วันนี้จะเป็นวันที่ดี
                ขอบคุณนะพวกมึง ขอบคุณนะจีมิน :)


- FIN -





********************************************************** 
                ฮายยยยยยยยย
                มีใครกดเข้ามาอ่านบ้างรึเปล่าเอ่ย? 5555555555
                เราคัมแบกแล้วนะ หลังจากแต่งครั้งสุดท้ายคือวันเกิดจีมิน
                ก็ไม่มีอะไรจะพูดมากค่ะ แค่ #HAPPYSUGADAY นะค้า พี่กิของเราส์
                และหวังว่าทุกคนจะสนุกไปกับฟิคกากๆของเรานะ
                มีติชม หรือคำแนะนำ คำชม คำด่า บอกกันได้น้า~~ ที่นี่เลยนี่แหล่ะ ฮ่าๆๆ บ๊ายบายยยย จุ๊ป <3
                สกรีมได้ที่แท็ก #ficOSPR นะคะ

                

วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559

[OS] (yoonmin) SAY LOVE IN MY HEART [Jimin Birthday 2016]








TITLE : SAY LOVE IN MY HEART 
CAST : BTS 
COUPLE : YOONMIN 
FOR : JIMIN BIRTHDAY 2016 
RATE : PG 
WORDS : 6,261


SAY LOVE IN MY HEART


            โอ้ย!!! หิวข้าวโว้ย!!” 
            “บ่นอย่างงี้มาทำเองเลยมา!!” 
            อะไรคือการที่วันอาทิตย์โรงเรียนหยุดทั้งทีแทนที่จะได้นอนตื่นสายแต่กลับต้องมาตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงเพื่อต้องมาทำอาหารให้กับคนที่เป็นทั้งรูมเมทและรุ่นพี่ที่โรงเรียนด้วยเหตุผลที่ว่า.. เจ้าตัวหิวแต่ทำอาหารไม่เป็น!! 
            คืออะร๊าย!!!!!!! 
            อย่าแปลกใจว่าทั้งๆที่จีมินบอกว่าคนที่บ่นอยู่นั้นเป็นรุ่นพี่แล้วทำไมตะโกนแหกปากตอบไปจนคนสาปแช่งกันทั้งหอขนาดนั้น ไม่ให้ความเคารพหน่อยหรอ เขาบอกได้เลยว่า ก่อนหน้านี้เขาเองก็ให้ความเคารพรุ่นพี่คนนี้ดีอยู่หรอก เพราะพี่ยุนกิน่ะ ทั้งเรียนเก่ง เล่นบาสเก่ง แถมเล่นเปียโนเก่งอีกต่างหาก แถมตอนที่ย้ายเข้ามาเรียนมัธยมปลายที่โซลนี้ เขามาช้าทำให้ไม่มีหอเหลือแล้วทั้งนอกและในโรงเรียน (ไม่คาดคิดว่าเรื่องแบบนี้จะมีเกิดขึ้นด้วยในสังคม ตอนนั้นนี่อึ้งไป 5.9376251 วินาทีกันเลยทีเดียว) แต่ด้วยความที่บ้านของเขาอยู่ตั้งปูซานโน้นแหน่ะ จะซื้อคอนโดก็คงจะแพงไปหน่อยบ้านไม่ได้รวยขนาดนั้น ก็เลยคิดหาทางออกไม่ได้ ก็ได้พี่คนนี้แหล่ะยื่นข้อเสนอให้เป็นรูมเมทกันแต่เขาต้องเป็นคนจ่ายค่าหอ ถึงจะเหมือนว่าจะโดนเอาเปรียบไปหน่อยแต่ก็ดีกว่าไม่มีที่อยู่จึงตกลงไป 
            แต่!!!!!!!!! 
            ใครจะไปคิดว่าอิพี่มันจะให้เขาทำให้หมดทุกอย่างขนาดนี้กันเล่า! เหนื่อยสายตัวแทบขาดทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะเรียนหนักแต่เป็นเพราะรุ่นพี่คนนี้คนเดียวเลย ไม่รู้ว่าก่อนเขาเข้ามาอยู่นี่อยู่ตัวคนเดียวมาได้ยังไง อยากจะถามแต่ก็กลัวจะโดนตบกระโหลกกลับมาให้ปวดหัวเล่นๆก็เลยไม่ได้ถาม 
            อันที่จริงทุกวันนี้ก็ไม่อยากจะทำให้มัน (จะเรียกอย่างงี้ใครจะทำไม) นักหรอก ให้แม่งทำเองซะมั่ง.. 
            แต่กูอยากให้มึงทำให้อ่ะว่าจบก็เดินเข้ามาดมกลิ่นเข้าต้มกุ้งที่ทำ มือก็พลางลูบหัวจีมินไปด้วย อื้อหืม~ หอมมาก จะรอนะหมูน้อย~” 
            ..แต่ก็ใจอ่อนให้มันทุกที 
            ทีหลังอ่ะซื้อพวกโจ๊กสำเร็จรูปมาไว้ที่ห้องมั่งดิ่พี่ ถ้าผมไม่อยู่ทำไงเนี่ยเขาพูดพร้อมกับนำข้ามต้มสองชาม (ไหนๆก็ตื่นมาทำแล้วก็กินมั่งคงไม่แปลกเนาะ~) มาวางบนโต๊ะญี่ปุ่นที่อีกคนตั้งรอไว้แล้วพร้อมกับนั่งลงตรงฝั่งข้างๆ 
            ก็ไม่กินไง 
            “จะบ้าหรอพี่ เป็นโรคกระเพาะกินอาหารไม่ตรงเวลาก็อาการกำเริบอีกดิ่ 
            “เป็นห่วงกูหรอ?” เจ้าตัวพูดพร้อมกับยิ้มหน้าอาแปะ 
            ..เออ เป็นห่วง 
            คนเดือดร้อนคือผมปะ?” 
            แต่ก็เลือกที่จะไม่ตอบไปตามที่คิด ด้วยเหตุผลอะไร..ไม่บอกหรอก :p 
            เอ้อ ไม่เคยเป็นห่วงกูหรอกมึงอ่ะ!” 
            “จะกินป่ะข้าวต้มอ่ะ เห็นบ่นงี้ไม่หิวแล้วใช่ปะจะได้เอาไปทิ้ง 
            “เฮ้ย! กินดิ่ จีมินนี่อุตส่าตื่นเช้าขึ้นมาทำให้นี่~” รีบพูดแล้วตักข้าวต้นเข้าปากทันที แล้วมึงอ่ะไม่กินหรอ?” 
            “ใครบอกพี่ว่าผมจะไม่กิน 
            “โอเคจบ!” 
            จบคำพูดทั้งสองคนก็นั่งกินข้าวต้มด้วยเสียงหัวเราะ


SAY LOVE IN MY HEART


            “นี่ๆ จีมินเสียงเรียกพร้อมแรงสะกิดที่ไหล่ทำให้เขาที่กำลังจะลงนอนเงยหน้าขึ้นมาหา 
            ห้ะ? ว่าไงแทแท 
            คิมแทฮยอง หรือ แทแทที่เขาเรียก เพื่อนสนิทที่เจอกันเพราะนั่งข้างกันตอนเข้าเรียนครั้งแรก แล้วบังเอิญคุยกันถูกคอรวมทั้งเป็นเด็กใหม่ทั้งคู่ ก็เลยอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่วันแรกจนตอนนี้ไฮสคูลปีสองแล้ว ถ้าถามว่าพวกเขาไม่มีเพื่อนคนอื่นคบหรอ ทำไมอยู่กันแค่สองคน? ไม่ใช่อย่างนั้นนะ เราก็เพื่อนเยอะอยู่แหล่ะ โดยเฉพาะแทฮยอง เพราะรายนั้นเป็นคนร่าเริง (มากเกิ๊นนนนนนน) เจอใครก็เข้าไปทักหมด ในส่วนของจีมินเองก็เป็นคนร่าเริงแต่ไม่ถึงขั้นแทฮยองไง บวกกับนิสัยที่ค่อนข้างขี้อายมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยเพื่อนน้อยกว่าแทฮยองนิดหน่อย ด้วยเหตุผลแค่นั้นจริงๆ ไม่ใช่เพราะว่าแทฮยองโคตรหล่อหรอก 
            อ้อ เขาบอกรึยังนะว่าอยู่ที่โรงเรียนเขาใส่แว่นน่ะ แถมหน้าซีดมาก คนอื่นๆก็เลยไม่รู้หรอกว่าจริงๆแล้วเขาน่ะน่ารักแค่ไหน~ (มีความมั่นหน้า) 
            ไปห้างกัน~” ตากลมของแทฮยองเมื่อพูดดูมีประกายขึ้นมา 
            อะไรของมันวะ 
            ไปทำไมวะ ขี้เกียจ อยากนอนอยู่บ้านง่ะว่าแล้วก็บิดขี้เกียจแล้วเอียงหัวนอนบนโต๊ะเรียน (คาบสุดท้ายหมดเวลาแล้วแต่อยากนอนก่อนอ่ะ มีไรมั้ย?) 
            ก็ไปเดินเล่นด้วย เล่นเกมด้วย..แทฮยองทำหน้าครุ่นคิดอยู่สุกพักก็โพล่งออกมา อ้อ! แล้วก็ไปซื้อของทำงานด้วยไง ส่งพรุ่งนี้ด้วยนี่นา กูยังทำไมเสร็จเลยอ่ะ 
            “งานไรวะส่งพรุ่งนี้?” ทำไมจำไม่เห็นได้เลย.. 
            งานเจ๊ซอนมีอ่ะ ที่ทำใส่ฟิวเจอร์บอร์ดไง.. อย่าบอกนะว่ามึงลืมแทฮยองพูดพร้อมกับทำหน้าว่า ถ้ามึงลืมนี่ตายหยังเขียดแน่ๆ 
            และกูนี่คงตายหยังเขียดแน่ๆ 
            ก็กูลืมอ่ะดิ่ เวรเอ้ย!!!!!” 
เจ๊ซอนมีคือครูสอนวิชาการงานที่โหดสัสจนครูห้องปกครองยังยอมแพ้ ถ้าพี่แกสั่งงานแล้วส่งไม่ตรงเวลา หรือ งานไม่เรียบร้อย เตรียมติด ร. ทันที ได้ยินมั้ย ติด ร. ทันที!!!! ถ้าแม่รู้นี่เอาจีมินตายแน่เลยฮือออ ทุกวันนี้คะแนนสอบยิ่งไม่ค่อยจะดีอยู่ ว่าแล้วก็รีบลุกรีบเก็บของใส่กระเป๋าทันที 
จะรีบไปไหนวะมึง?” แทฮยองที่เห็นเพื่อนสนิทรีบเร่งเก็บของใส่กระเป๋าจึงถาม 
ก็ไปซื้อของดิ่วะ มึงจะรอให้เจ๊ซอนมีมาเอาตัวรอเรือมาติดหัวกูรึไง ป่ะ!” จบคำพูดปุ๊ปก็ลากเพื่อนสนิทไปด้วยทันที 
เฮ้ยช้าๆก็ได้มั้ง..!” 
. 
. 
จะทำทันหรอวะ ทำฟิวเจอร์บอร์ดเป็นเล่มๆเลยนะเว้ยในขณะที่พวกเขาทั้งสองคนกำลังเดินหาวัสดุในการทำงานแทฮยองก็ถามขึ้นมา 
ไม่ทันก็ต้องทันแหล่ะวะก็แค่คืนนี้ไม่ต้องนอน แค่นั้นเอ๊งงงงงง TT TT 
แล้วหาข้อมูลไว้แล้วอ่อ?” 
ข้อมูลที่ว่าก็คือเรื่องเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร ค้นหาข้อมูล และความรู้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตน่ะ 
หาไว้นานแล้ว แต่แค่ลืมทำ 
เออ ก็ดีไป งั้น..แทฮยองที่เหมือนจะพูดต่อแต่แล้วก็หยุดไปทำให้เขาที่ก้มเลือกกระดาษสีอยู่ต้องหันไปมอง กูไปก่อนนะ!” 
พูดจบก็วิ่งโร่เข้าไปหาแฟนเด็กของตัวเองทันทีไม่รอให้จีมินบ่น 
อิเพื่อนเฬววววววววว!!!!! 
ถึงว่าล่ะตอนชวนมาห้างนี่ตาเป็นประกายเชียว ที่แท้ชวนมาหาผัว -*- แต่ก็ดีไปที่ทำให้เขานึกได้ว่ามีงานล่ะนะ ช่างมัน 
ขาเดินเลือกหาวัสดุไปอีกสักพัก พอได้ครบก็จึงไปจ่ายเงิน ซึ่ง! โคตรพะรุงพะรังเลยว่ะ - - 
เดินแบกของต่างๆอย่างทุลักทุเลไปได้สักพักก็รู้สึกว่ามีอีกมือหนึ่งมาช่วยจับของ.. 
            เดี๋ยวช่วย 
เสียงเมาๆวิธีการพูดเมาๆนี่มันพี่ยุนกิ? ว่าแล้วก็ชะเง้อหน้าออกจากของพะรุงพะรังต่างๆออกไปมองหน้าคนที่บอกจะช่วย ..พี่ยุนกิจริงๆนี่หว่า! มาได้ไงวะ 
เดี๋ยวช่วยพูดซ้ำอีกรอบก่อนจะทำท่า..เขาเรียกว่าไงอ่ะ อ้าแขนรอรับกระดาษ อืม อะไรประมาณนั้น 
และด้วยความไม่อยากขัดความหวังดีของคุณรุ่นพี่จึงส่งของให้เจ้าตัวถือ..เกือบทั้งหมด จีมินไม่ได้ขี้เกียจถือเลยนะจริงๆ -.,- 
แล้วนี่พี่มาได้ไงอ่ะระหว่างที่รอแคชเชียร์คิดเงินก็ถามสิ่งที่สงสัย 
กับเพื่อนแล้วพี่ยุนกิก็ตอบมาสั้นๆ สั้นจริงๆ - - 
อ้าว แล้วเพื่อนอ่ะ 
แยกออกมาแล้วก็ตอบมาสั้นๆพร้อมกับมองไปที่ของที่ซื้อมา 
หมายความว่าเพื่อนแยกออกหรือพี่แยกออก?” นี่งงนะเนี่ย งงจริงๆ 
..อืม 
ห้ะ! 
WHAT THE F*CKKKKK!!!!!!!!!!!!!! 
อิฟหกด่าสวลำบพยะนัรีปแมอทื!! ก็รู้นะว่าอยู่ข้างนอกต้องคีพลุคมินยุนกิสุดเท่ขวัญใจประชาชน แต่ก็ไม่ต้องขนาดนี้มั๊ยยย นี่รูมเมทรึเปล่า รู้กันหมดไส้หมดพุงแล้วจะต้องคีพลุคอะไรหนักหนา! โอ้ยหมันไส้ -^- 
พอแคชเชียร์คิดเงินเสร็จก็รีบจ่ายเงินแล้วหยิบของบางส่วนมาถือแล้วเดินออกไปทันที ส่วนอีกเกือบทั้งหมดก็ให้พี่มันถือไง จีมินไม่ลืมหรอกนะที่พี่มันบอกจะช่วยน่ะ แล้วก็แค้นมากด้วย คอยดูกลับห้องไปกูจะไม่คุยกับมึง! 
. 
. 
นี่ซื้อมาทำอะไรวะ 
... 
เยอะแยะชิบหาย 
... 
ถือแม่งก็หนัก 
... 
มินยุนกิคนพูดมากกลับมาแล้วครับสังคม นี่ก็สงสัยว่าประตูห้องมันมีมนต์อะไรร่ายไว้รึเปล่า หลังจากที่เดินเข้าหอมาเงียบๆไม่พูดอะไรสักคำพอผ่านประตูห้องมาเท่านั้นแหล่ะ.. บ่นเป็นต่อยหอยเลยสัส! 
นี่จีมิน.. มึงจะไม่คุยกับกูหรอคนเป็นพี่ถาม 
...เออ กูจะไม่คุยกับมึง จำวรั้ย! 
จีมินนี่ครับ จะไม่คุยกับพี่จริงๆหรอ?” 
...อะ.. เออไง!! *หลบตา 
จีมิน..คนพี่เห็นว่าน้องหลบตาก็นำมือจับแก้มจีมินทั้งสองข้างให้หันมาสบตากัน 
อิเหี้ยย ทำไรมึงเนี่ย!! 
ถึงในใจด่าไปอย่างนั้น แต่พอความจริงก็ได้แค่ยืนนิ่ง ตารีเล็กของตัวเองเปิกกว้างด้วยความตกใจ ..ระคนหวั่นไหว 
ใบหน้าเรียวขาวที่มองเผินๆแล้วดูนิ่งเฉย แต่ทว่าตาเล็กกำลังมองเขาอยู่ด้วยสายตาอบอุ่น บวกกับมือที่กำลังจับแก้มของเขาทำให้ใบหน้าเราห่างกันไม่ถึงคีบ 
..หายโกรธพี่นะครับน้ำเสียงนุ่มที่พูดออกมาจากปากคนตรงหน้านี่มัน.. กูตาย กูตายแน่ๆ ฮือออออ 
อะ..เออ ออกไปได้แล้ว..โอ้ยย ทำไมพูดออกไปเสียงเบาขนาดนี้! แล้วไอ่อาการร้อนที่หน้ามันคืออะไร๊!! 
อิหัวใจมึงหยุดเต้นแรงเดี๋ยวนี้นะ!!!! 
แล้วพี่ยุนกิปล่อยมือที่จับหน้าเขาอยู่ออก แล้วก็ยิ้ม 
มะ..มึงยิ้มอะร๊ายยยยยย!!!!!! 
ยิ้มไรพี่!?” ถามออกไปเสียงดังพร้อมกับอาการร้อนที่หน้าเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง 
...แต่คนถูกถามกลับไม่ตอบ แล้วทำเพียงแค่ยักไหล่แล้วก้มลงไปมองของที่พื้น สรุปซื้อมาทำไมเนี่ย?” 
....ไอ้.... อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง มึงบอกกูมาเดี๋ยวเน้!!!!!! 


00 : 10 น. 
มึง กูง่วง คนตัวขาวที่ช่วยเขานั่นทำงานอยู่บ่นขึ้นมา 
ง่วงก็ไปนอนดิ่พี่พร้อมกับที่มือของเขาชี้ไปที่เตียง งานผม เดี๋ยวที่เหลือผมทำเอง 
ไม่เอา กูจะช่วยมึงก่อนว่าจบก็สะบัดหัวไล่ความง่วงไปอีกรอบ 
เอ้า! ใครใช้ให้ช่วยครับ? 
ไปนอนเหอะเห็นแล้วสงสารว่ะ 
คำหลังพูดออกไปไม่ได้ เกรงว่าเดี๋ยวจะโดนตบกะโหลกพัง -- 
...จบคำของจีมินยุนกิก็เงยหน้าขึ้นมาสักพัก อืม 
แล้วลงนอนที่ตักนุ่มของคนเด็กกว่าแล้วหลับตาพริ้มทันที 
คืออะไร๊!! 
พี่ ผมหมายถึงไปนอนที่เตียง.. 
ไม่เอาอ่ะ จะนอนตักจีมิน..เจ้าตัวพูดพร้อมกับลืมตาขึ้นมา ยิ้ม แล้วลูบหัวจีมิน สู้ๆนะครับ 
..จากนั้นก็หลับตาไปต่อ 
ตึกๆ ตักๆ ตึกๆ ตักๆ 
พัง พังแน่ๆ ตัวจีมินเนี่ยพังแน่ๆ ฮือออออ แม่ครับจีมินโดนคนที่แอบชอบแอทแทคใส่แรงมาก จีมินต้องตายแน่ๆเลยแม่ ตัวจีมินร้อนไปหมดเลย โดยเฉพาะที่หน้าอ่ะแม่ โฮรรรรรรรรรรรรรรรรร 
ตอนแรกก็โคตรสงสัยว่าทำไมร้อยวันพันปีอิพี่มันไม่เคยดีต่อใจขนาดนี้ แล้ววันนี้มันเป็นอะไร แอทแทคกูจังเลย แต่แม่ง! ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกแล้ววว พี่มันเอาสมองจีมินไปแล้วด้วยครับทุกคน 
หลังจากนั่งเขิน เวิ่นเว้อ เพ้อเจ้อไปได้สักพักก็ตบหน้าตัวเองเบาๆเรียกสติให้ตัวเองกลับมาโฟกัสกับงานที่ต้องทำ แต่.. 
โอ้ยเขินนนน ฮือออออออ TT//////TT


[ Yoongi’s Part ] 
6 : 30 น. 
เช้าแล้วหรอวะ? 
แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาที่ดวงตาของเขาที่หลับอยู่ทำให้ต้องจำใจตื่นขึ้นมา..ถึงแม้จะไม่อยากตื่นแค่ไหนก็เถอะ 
หลังจากลืมตาขึ้นมาช้าสิ่งแรกที่เห็นคือหน้ากลมของเจ้าของตักที่เขากำลังนอนหลับตาพริ้มพิงโซฟาด้านหลังอยู่ 
..อ่า นั่งทำงานทั้งคืนเลยสิ่นะ.. 
คิดได้ดังนั้นจึงลุกขึ้นนั่ง กวาดสายตาไปทั่วก็เห็นบรรดาเศษกระดาษ ฟิวเจอร์ปอร์ดที่ถูกตัดแล้วระเกะระกะทั่วห้องไปหมด 
..เก็บให้ก็ได้ 
ว่าแล้วก็เก็บเศษขยะต่างๆลงเข้าถุงดำกวาดพื้นให้จนสะอาด ส่วนงานที่เสร็จเป็นเล่มแล้วก็เอาวางไว้บนโซฟา พอคิดว่าเสร็จหมดแล้วจึงเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดไปเก็บพร้อมกับวางถุงดำไว้หน้าประตูกันลืมเอาไปทิ้ง 
..ต่อไป ไอ่อ้วน 
จะอุ้มมันไปนอนดีๆดีมั้ยวะ 
คิดไปคิดมาอยู่สองสามนาทีก็ตัดสินใจได้ 
เอาวะ! ถึงตัวมันจะหนักแต่ก็คงไม่เท่าไหร่หรอก 
คิดในใจเสร็จก็เดินเข้าไปหาร่างที่นอนอยู่แล้วช้อนแขนเข้าไปใต้ขาและหัวไหล่ของเจ้าตัวอ้วนแล้วอุ้มยืนเต็มความสูง.. 
อั่ก! หนักชิบหาย 
ไม่รอให้เสียเวลาก็อุ้มคนในอ้อมแขนไปที่เตียงนอนแล้วค่อยๆวางทันที 
ชาเลยแขนกู - - 
แต่แล้วอยู่ดีก็คิดขึ้นมาได้.. ทำไมกูไม่อุ้มมันไปนอนแค่โซฟาพอวะ!? นี่มึงโง่หรือมึงโง่เนี่ยมินยุนกิ!! 
หงุดหงินงุ่นง่านกับความโง่ของตัวเองไปก็หันไปดูนาฬิกาพบว่าเจ็ดโมงแล้ว.. ไปอาบน้ำก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยปลุกไอ่หมูตอนโมงครึ่งแล้วกัน โรงเรียนเข้าตั้งแปดโมงสิบห้า 
[ END Yoongi’s Part ]


หืม? กลิ่นไรอ่ะ? 
เพราะได้กลิ่นอาหารทำให้เขาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความแปลกใจ ใครทำอะไรวะ?’ ด้วยความสงสัยจึงลุกออกจากเตียง.. เดี๋ยวนะ เตียง? เท่าที่จำได้คือพอทำงานเสร็จตีห้าก็นอนพิงโซฟานี่หว่า และมาอยู่บนเตียงได้ไงวะ? 
เออ ช่างมันก่อน ตอนนี้สงสัยเรื่องของกินมากกว่า 
เดินออกมาก็เจอโต๊ะญี่ปุ่นถูกตั้งไว้กลางห้องพร้อมกับปาท่องโก๋และน้ำนม..หรือเต้าหู้? อะไรสักอย่างนี่แหล่ะอยู่บนโต๊ะ มองหาตัวคนจัดการก็เจอพี่ยุนกิแต่งชุดนักเรียนเรียบร้อยกำลังถือชามโจ๊กมาวางบนโต๊ะ 
อ้าวตื่นแล้วหรอ กำลังไปปลุกเลย ไปล้างหน้าแปรงฟันไป กูซื้อข้าวเช้ามาให้จะได้มากิน 
เห้ย!!!! เมื่อวานว่าแปลกแล้ว วันนี้แปลกกว่าอีก!!! 
ว่าแล้วก็เดินไปหาคนตัวสูงกว่า ( 1 cm. ) แล้วเอามืออังหน้าผาก 
ตัวก็ไม่ร้อนนี่หว่า 
อะไรของมึงคนตัวขาวถามด้วยความสงสัย 
พี่แปลกๆ ร้อยวันพันล้านปีพี่ไม่เคยดีขนาดนี้.. 
...เกิดความเงียบพร้อมกับรังสีอมหิตแผ่ออกมา แล้วจะกินมั้ย?” 
กะ..กินคร้าบปล่อยมือออกมาจากหน้าผากคนตรงหน้า ทำท่าตะเบ๊ะรับทราบแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟันทันที 
น่ากลัวชิบหาย >< 
. 
. 
เสร็จแล้ววคร้าบบบหลังจากที่เขารีบล้างหน้าแปรงฟันสุดชีวิตเสร็จ เพื่อมากินอาหารเช้ากับพี่ชายตาตี่ (ที่เริ่มจะแปลกขึ้นทุกๆวัน) 
เออ มานั่งเร็วๆ รออยู่ 
เห็นมั๊ย แปลกจริงๆนะ! 
ว่าแต่พี่เก็บของให้ผมอ่อ?” ในขณะที่นั่งกินโจ๊กอยู่ร่างเล็กก็ถามขึ้นมาพร้อมกับกวาดสายตาไปรอบๆห้อง ซึ่งดูสะอ้าดสะอ้านต่างจากที่เขานั่งทำงานเมื่อคืนลิบลับ 
ไม่ใช่มึงก็กูแหละแล้วก็ตักโจ๊กเข้าปาก 
ขอบคุณ -*- 
แล้วทำไมผมไปนอนบนเตียงได้วะพี่?” 
ไม่ใช่มึงก็กูแหละแล้วก็ตักโจ๊กเข้าปาก 
เออ!! กูไม่ถามมึงแล้วบอกเลย! 
ยุนกิที่เห็นตัวเล็กทำหน้าตาง้ำงอก็หัวเราะออกมานิดหน่อยพร้อมกับมือที่ไปลูบผมจีมินด้วยความเอ็นดู 
ล้อเล่นน่า ขี้งอนจังนะเราอ่ะว่าแล้วก็ละมือที่ลูบผมน้องมาประคองหน้าตัวเอง พี่อุ้มเราไปเองแหละ ^^” 
อุ้ม? อิพี่เนี่ยนะอุ้มเขา!? 
บะ..บ้าน่า พี่เนี่ –“ 
ก๊อกๆ ก๊อกๆ 
ก่อนที่จีมินจะพูดเสร็จก็มีเสียงเคาะประตูห้องออกมาก่อน.. 
เดี๋ยวกูไปเปิดเองพี่ยุนกิพูด พร้อมกับเดินไปเปิดประตูห้อง 
เมื่อเปิดประตูออกมาก็เป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวย ตากลมโตดูดึงดูด และริมฝีปากเป็นกระจับ ที่จีมินบอกได้ในฐานะผู้ชายคนนึงเลยว่า น่ารักมากกกกกกก! 
ด้วยความที่หอนี้เป็นหอนอก จึงไม่ได้แยกชายหญิง ผู้หญิงหรือผู้ชายจะขึ้นมาจึงไม่แปลก 
และทันทีที่หญิงสาวคนนั้นเห็นว่าใครที่เป็นคนออกมาเปิดประตูก็กระโดดกอดทันที 
ยุนกิ!!! คิดถึงจัง!! ><” 
เฮ้ย! ใครวะ!?


SAY LOVE IN MY HEART


จีมินวันนี้กูไม่นอนห้องนะ 
. 
จีมินเย็นนี้ไม่ต้องรอกินข้าวนะ กูคงกลับดึก 
            . 
            จีมินกูไปโรงเรียนก่อนนะ 
            ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ตั้งแต่ที่มีผู้หญิงคนนึงมากระโดดกอดรุ่นพี่เขาที่หน้าห้อง เจ้าตัวก็ไม่ค่อยได้กลับห้อง ไม่ค่อยได้กินข้าวพร้อมกัน ไม่ค่อยให้จีมินได้เห็นหน้าเลย วันหยุดที่ผ่านมาก็ไม่อยู่ห้อง ตอนเช้าก็ไปโรงเรียนก่อน เลิกเรียนบางวันก็กลับซะดึก และวันนี้ก็คงเช่นกัน.. 
            จีมินที่นั่งรอรุ่นพี่ตัวขาวของตัวเองตั้งแต่หกโมงเย็นด้วยเพราะคนตัวขาวบอกว่าจะกินข้าวด้วย แต่จนตอนนี้ใกล้สองทุ่มแล้วยังไม่กลับมาเลย ..กับข้าวเย็นชืดไปหมดแล้วมั้งไอ่พี่บ้าเอ้ย.. 
            คิดได้ดังนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาโทรไปถามสักหน่อย 
            <ฮัลโหล> รอไม่นานเจ้าตัวก็รับสาย 
            อยู่ไหนเนี่ยพี่?” 
            <ทำไมอ่ะ มึงมีไร?> เสียงรุ่นพี่ตัวขาวถามกลับมาด้วยความสงสัย 
            ลืมงั้นหรอ? 
            “เอ้า! ก็พี่บอกเองว่าจะกลับมากินข้าวที่หออ่ะ เลยถามว่าจะกินมั้ยเขาแกล้งตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่กึ่งโมโหนิดหน่อย 
            <เออว่ะ เห้ย! กูขอโทษจีมิน กูลืมอ่ะ> 
            ..ลืม.. 
คำที่พ่นออกมาทางโทรศัพท์ทำให้เขาที่น้อยใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งรู้สึกเหมือนมีมีดมากรีดที่หน้าอกฝั่งซ้าย 
เออ ดีละ ผมจะได้ไม่ต้องทำใหม่พูดออกไปด้วยกับน้ำเสียงที่ทำให้ดูปกติที่สุด ทั้งที่ตอนนี้เริ่มรู้สึกเหมือนมีก้อนบ่างอย่างมาจุกอยู่ที่คอ และน้ำใสๆมาขวางการมองเห็นไว้.. 
<นี่มึงกินแล้วใช่ปะ?> 
กินแล้วดิ่..ซะเมื่อไหร่ล่ะ 
<เออดีๆ วันนี้กูกลับช้านะไม่ต้องรอ> 
อืม.. 
<แค่นี้ใช่ปะ> 
ครับ.. 
<งั้นวางละนะ> เสียงปลายสายถามออกมา ซึ่งเขาก็อยากจะถามกลับเหมือนกัน.. 
..รั้งได้ด้วยหรอวะ 
อืม 
<แค่นี้ล่ะ ฝันดี..> เสียงอีกคนพูดจบแต่ยังไม่ทันได้วางสายก็มีเสียงผู้หญิงออกมา.. <ยุนกิเสร็จยาง~ นูน่าทำเค้กเสร็จแล้วนะ> 
.... 
<โอเคๆ ไปแล้ว--> 
ตื้ด! 
เสียงกดตัดสายจากทางอีกฝั่งดังขึ้นพร้อมกับน้ำตาของจีมินร่วงลงสู่พื้นห้อง ทั้งที่มือยังคงถือโทรศัพท์ค้างไว้ที่ใบหู 
ไอ้บ้าจีมิน อย่าร้องไห้ดิ่วะเสียงเตือนสติจากข้างในตัวเองที่เรียกร้องออกมาไม่ทำให้น้ำตาหยุดไหลได้เลย กลับกันยิ่งทำให้เขาร้องไห้หนักกว่าเดิม 
ฮึก..เสียงสะอื้นดังขึ้นในห้องที่เงียบสงัดและเด็กชายที่นั่งร้องไห้อยู่ที่พื้นพร้อมกับโต๊ะญี่ปุ่นที่มีกับข้าวหลายอย่างวางอยู่เต็มไปหมด มองยังไงก็น่าสมเพชเนอะ ขนาดเขายังสมเพชตัวเองเลย ถึงแม้ทั้งที่ในหัวบอกให้เลิกร้องไห้แค่ไหน แต่ในหัวใจกลับยิ่งเจ็บเหมือนโดนใครกรีดมีดซ้ำๆๆไม่รู้จบ นึกว่าอีกคนมีความสุขอยู่กับคนอื่นก็ยิ่งเจ็บ หวง แต่ถามตัวเองว่ามีสิทธิอะไร ก็ตอบไม่ได้ ก็ไม่ได้มีสิทธิอะไรนี่เนอะ เป็นแค่รูมเมทและรุ่นน้องธรรมดาๆ.. พอนึกมาถึงตรงนี้ก็ยิ่งเจ็บ ไม่เอาสิ่จีมินเลิกคิดซะเลิกคิด.. 
ฮึก อะ..คงเพราะร้องไห้หนักจึงทำให้อาการไข้ที่เป็นสะสมมาได้สองสามวันกำเริบ แรงบีบที่หนังศีรษะทำให้จีมินที่ร้องไห้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วร้องไห้หนักยิ่งไปอีก พร้อมกับเหงื่อที่ไหลซึมออกมาเพราะความปวดหัว มือทั้งสองข้างเอาขึ้นมากุมหัวเพราะความเจ็บปวด ก่อนที่จะหายไปพร้อมกับสติดับลง..


SAY LOVE IN MY HEART


[ YOONGI’s PART] 
เข้าห้องไปได้แล้ว~” 
เสียงหวานจากยุนอา พี่สาวแท้ๆคนสวยของเขาที่เพิ่งกลับจากอเมริกามาได้ไม่นานไล่เขาเข้าห้องของตัวเองไป แต่ว่า.. 
ถ้าผมเข้าไปแล้วก็ไม่ได้เจอพี่แล้วอ่ะดิ่ว่าแล้วก็ทำหน้าตาง้ำงอใส่ 
ติดพี่สาวมาตั้งแต่เด็กผิดรึไง? ยิ่งนานๆทีได้เจอกันก็ยิ่งคิดถึงดิ่ -^- 
พี่จะกลับไปหาที่บ้านบ้างไม่ได้รึไงเล่า~” ยุนอาพูดพร้อมกับยีผมน้องชายด้วยความเอ็นดู 
ที่บ้านก็หมายถึงบ้านเกิดที่แดกู เพราะครอบครัวอยู่ที่นั่น และพี่สาวก็บอกจะขับรถไปในวันพรุ่งนี้ ถึงได้อาลัยอาวรณ์อยู่นี่ไง 
เอาน่า เดี๋ยวก่อนกลับพี่จะมาแวะหาอีกทีโอเค๊?” พูดแล้วก็จับไหล่น้องชายให้หันเข้าประตูห้อง แล้วตอนนั้นก็พาน้องสะใภ้มาหาด้วยนะคะน้องรัก~” 
พี่ยุนอา!” 
ฮ่าๆ ไปแล้วนะ ดูแลตัวเองดีๆว่าจบก็เดินวิ่งไปทันทีก่อนจะถูกน้องชายทำร้ายร่างกาย รายนี้พี่สาวก็ไม่เว้นน่ะบอกเลย 
หลังจากพี่สาวไปแล้วยุนกิก็ยิ้มพร้อมกับไขประตูห้อง ที่พี่สาวเขาพูดถึงน้องสะใภ้นั่นก็หมายถึงจีมินน่ะ เขาที่เพิ่งรู้ตัวเองไม่นานมานี้ว่าที่ชอบแกล้งน้องหยอกน้องแต่ก็อยากอยู่ใกล้ๆน้องนั้นเป็นเพราะเขาชอบจีมิน แต่เขาก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะดูเหมือนน้องจะมองคนแค่เป็นพี่น้อง (พูดแล้วจุก TT) ประจวบเหมาะกับที่พี่สาวผู้มีประสบการณ์(?)กลับมาเยี่ยมพอดี ด้วยความคิดถึงและอยากได้คำปรึกษาถึงการทำให้น้องหวั่นไหวแบบเนียนๆ ทำให้หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาติดอยู่กับพี่สาวตลอด 
แกร๊ก 
ไขประตูเข้าไปก็พบกับความแปลกใจเพราะทั้งห้องยังคงสว่างโร่ ไม่ได้ถูกปิดไฟไว้ทั้งๆที่ก็เกือบจะห้าทุ่มแล้ว 
ยังไม่นอนหรอวะ? 
ปิดประตูห้องพร้อมกับเดินเข้าไปก็พบกับกับโต๊ะญี่ปุ่น่ทีมีอาหารเต็มโต๊ะไปหมด ซึ่ง..ทำไว้ทำไมว่ะ แต่ความสงสัยก็ถูกกลบไปเมื่อเห็นร่างของรุ่นน้องที่คุ้ยเคยนอนอยู่ข้างๆโต๊ะนั้นจึงเดินเข้าไปใกล้หวังจะแกล้งให้น้องตกใจตื่น แต่ก็ต้องตกใจเสียเองเมื่อพบว่าใบหน้ารุ่นน้องนั้นซีดเซียวราวกับไม่มีเลือด ริมฝีปากแห้งผาก เหงื่อที่ออกตามไรผม และ.. คราบน้ำตา 
จีมิน!!!” 
[END YOONGI’s PART]


SAY LOVE IN MY HEART


อืม..ร่างบางลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับปรับโฟกัสสายตาก่อนจะพบว่าที่ๆนอนอยู่นั้นไม่ใช่ห้องของตัวเอง กำแพงและเฟอร์นิเจอร์สีขาวล้วน กลิ่นยาอ่อนๆ เตียงที่นอนอยู่ถูกวางไว้กลางห้องบวกกับที่หลังมือของตนเองมีสายน้ำเกลือเจาะอยู่ 
โรงพยาบาล? แล้วเขามาอยู่ที่นี่ได้ไงกัน? 
สายตาเหลือบไปเห็นน้ำข้างเตียงก็ยกขึ้นมาดื่มเพราะความหิวกระหาย แล้วนึกย้อนกลับไปที่ความทรงจำสุดท้ายคือเขารอพี่ยุนกิทานข้าวแต่เจ้าตัวก็บอกว่าลืมหลังจากนั้นก็ร้องไห้ ปวดหัวแล้วหมดสติไป.. 
พี่ยุนกิหรอ? แล้วกับข้าวนั่น!? 
ไม่ทันที่จะได้คิดอะไรต่อประตูห้องก็ถูกเปิดออกมาพร้อมกับร่างของคนที่กำลังนึกถึงอยู่ 
..พี่ยุนกิ 
จีมินฟื้นแล้วหรอ!? ปวดหัวมั้ย?” ร่างขาวเมื่อเห็นรุ่นน้องตัวเองฟื้นแล้วก็รีบวิ่งเข้ามานั่งเก้าอี้ที่ข้างเตียง วางขนมของกินที่ซื้อมา (ให้ตัวเอง) จัดท่านั่งให้น้อง แล้วเอาหลังมือทาบหน้าผากคนป่วยเพื่อวัดไข้ 
ไม่เป็นไรแล้วพี่ ขอบคุณนะจีมินตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มตาหยีให้ ก็แอบดีใจที่พี่เขาเป็นห่วงนี่นา 
จริงๆนะ?” เมื่อน้องบอกไม่เป็นไรจึงนำมือเก็บมาไว้ที่ข้างเตียง มึงรู้ป่าวกูกับพ่อแม่มึงนี่โคตรเป็นห่วงเลยนะเว้ย เป็นไข้หนักขนาดนี้ทำไมไม่บอกกันเลยวะ 
....อยู่ให้บอกรึไงเล่า -^- 
ตอนกูเจอมึงที่บ้านแถมตัวโคตรร้อนจี๋เลยกูนี่ทำอะไรไม่ถูกเลย พอพามาโรงบาลหมอบอกว่ามึงเป็นไข้แถมไม่ค่อยได้พักผ่อนอีกยุนกิเงียบไปพักหนึ่ง ทำไมไม่ดูแลตัวเองเลยวะมึงอ่ะ!?” 
.... 
ทำให้คนเขาเป็นห่วงอยู่เรื่อย มึงรู้มั้ยมึงหลับไปกี่วัน.. สามวันเลยนะเว้ย! กูนี่แทบไปเรียนไม่เป็นสุขเลย.. 
ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วนี่นา 
            “ไม่ได้เป็นห่าไรล่ะ!? เออ แต่กูก็ขอโทษนะเว้ยที่ดูแลมึงไม่ดี กูเป็นพี่แท้ๆ 
            “พี่ยุนกิ..มือเล็กเอื้อมไปจับมือของรุ่นพี่ไว้ 
            เออ ว่าแต่วันนั้นทำกับข้าวไว้แล้วทำไมไม่บอกยุนกิที่อยู่ดีๆก็โพล่งขึ้นมาอีกทำให้เขาแอบตกใจนิดหน่อย 
            ห้ะ!?” วันไหนว่ะ 
            วันที่มึงสลบไปนั่นแหละอุ้ย อ่านใจออกหรือไร? 
            “ก็พี่บอกไม่กินแล้วนี่หว่า.. 
            “กูขอโทษยุนกิพูดด้วยความรู้สึกผิด 
            “เห้ยพี่ไม่เป็นไร ตอนแรกกะว่าจะเอาใส่ตู้เย็นไว้กินวันอื่นไง แต่ดันปวดหัวสลบไปก่อน..มั้งเขาโกหก 
            “แล้วมึงร้องไห้ทำไมยุนกิถาม แต่เมื่อเห็นน้องทำหน้าไม่เข้าใจจึงขยายความ กูเห็บคราบน้ำตามึงวันนั้น 
            “อ๋อ~ ก็ปวดหัวไงโกหกอีกแล้วนะปาร์คจีมิน 
            แล้วทำไมไม่โทรมาบอก! จะได้รีบกลับร่าวขาวตะโกนขึ้นมาจนเขาสะดุ้งตกใจ 
            กะ ก็.. ไม่อยากรบกวนเวลาพี่อยู่กับแฟนนี่นาพูดถึงตรงนี้แล้วน้ำตาจะไหลแฮะ อดทนไว้น่าปาร์คจีมิน อดทนไว้ 
            ห้ะ?” หน้ายุนกิตอนนี้บ่งบอกว่างงมาก นี่ยุนกิไปมีแฟนตอนไหนว่ะ 
            “ก็วันนั้นผมได้ยินเสียงผู้หญิง.. 
            ยุนกิทำหน้าคิดไปพักหนึ่ง 
            อ่อ พี่ยุนอาอ่ะนะ?” 
            “....เออ จะยุนอายุนอียุนอูอะไรที่หายไปอยู่ด้วยกันทั้งอาทิตย์นั่นแหล่ะ 
            นั่นมันพี่สาวกู พี่สาวแท้ๆ ไอ่บ๊องยุนกิขำพร้อมกับยื่นมือเข้าไปยีผมน้อง 
            อ้าว! พี่สาว! อ้าว!!!!! 
            แล้วที่กูดราม่าเสียน้ำตาไปนี่เพื่ออะไร!!!!!!!! 
            แต่จะว่าไปพี่ยุนกิก็เคยพูดว่ามีพี่สาวเรียนอยู่อเมริกา แต่เขาก็ไม่เคยเห็นหน้า ก็เลยเข้าใจผิดไปอีก -*- 
            ไม่ทันที่ทั้งสองคนจะได้พูดอะไรกันต่อก็มีสมาชิกใหม่ที่ไม่คาดคิดเข้ามา 
            พี่สาวพี่ยุนกิ..!! ชื่ออะไรนะ ลืม -[]- 
            “ยุนกิ! ไม่บอกพี่เลยว่าอยู่ห้องไหน พี่ก็ถามหาไปดิ่!!” ร่างบางที่เข้ามาใหม่บ่นน้องชายตัวเองที่ทิ้งไปตั้งแต่จอดรถทั้งๆที่พี่ก็เพิ่งกลับมาจากบ้านวันแรก ไอ่เด็กนิสัยเสีย - - 
            “ขอโทษพี่ยุนอา ลืมอ่ะ ฮ่าๆๆๆ 
            อ่อ ชื่อพี่ยุนอา~ 
            “จิ๊!” หญิงสาวค้อนใส่น้องชายตัวเองก่อนที่จะหันไปมองคนที่กึ่งนั่งอยู่บนเตียงแล้วถลาเข้าไปหาจนจีมินตกใจ อ๊า~ น้องสะใภ้น่ารักจริงๆด้วย เหมือนที่ยุนกิบอกไว้เลย~” 
            ห้ะ น้องสะใภ้อะไร!? 
            จีมินทำหน้างงพร้อมกันหันไปมองรุ่นพี่ของตัวเองสลับกับพี่สาวเจ้าตัว 
            พะ..พี่ยุนอา!!” ยุนกิพูดพร้อมกับส่ายหน้าไปมาเบาๆ 
            อะ..อ้าว นี่ยังไม่ได้เป็นแฟนกันหรอ?” หญิงสาวทำหน้างง ก็ยุนกิบอกว่าชอบจีมินไม่ใช่หรอ?” 
            “พี่!!” <<ยุนกิ 
            “อะ..อะไรนะ!” <<จีมิน 
            ทั้งสองคนมองมาที่ผู้หญิงคนเดียวในห้อง คนนึงก็มองด้วยความตกใจ คนนึงก็มองด้วยความ..ยังไงดีละ เอาเป็นว่าน่ากลัว TT 
            เวรกรรม..ยุนอาก็นึกว่าจะเป็นแฟนกันแล้วนี่นา 
            ~ตือดือดึ๊ง ตือดือดือดึง ตึงตึง~ 
            พอดีกับเสียงจากโทรศัพท์มาช่วยชีวิตไว้.. 
            แม่โทรมาอ่ะ เดี๋ยวพี่ไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกดีกว่าเนาะ ^^” ว่าจบก็รีบออกไปจากห้องทันที 
            หลังจากที่พี่สาวของยุนกิออกไปจากห้อง จีมินก็หันมามองรุ่นพี่ของตัวเอง 
            หมายความว่าไงที่บอกว่ายุนกิชอบจีมิน.. 
            อะ..เอ่อ คือ.. 
....” ตอนนี้จีมินลุ้นจนใจเต้นแรงมากเลย ฮืออออ 
คือ..ยุนกิที่ตอนนี้กำลังอยู่ไม่สุขเพราะกำลังหาข้อแก้ตัว (แถ) แต่คิดไม่ออกจึงได้คิดว่าจะตัดใจบอกไปตามตรงเลย 
แมนๆตรงๆเลยก็ได้วะ!! 
เออ! กูชอบมึงอ่ะจีมิน!” 
จบคำพูดของคนตรงหน้า หัวใจจีมินที่เต้นแรงอยู่แล้วกลับแรงมากกว่าเดิมราวกับจะออกมาจากอก 
จริงดิ่!! จริงหรอวะ!! โฮรรรรร 
นะ..นานแค่ไหนแล้ว?” แต่บอกก่อนเลยถึงแม้จะดีใจแทบร้องไห้แค่ไหน เขาก็จะไม่แสดงอาการอะไรออกไปทั้งนั้น แก้แค้นที่อิพี่มันปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวมาตั้งหนึ่งอาทิตย์! 
แต่รู้สึกเสียงสั่นมือสั่นไปหมดเลยฮือออ แม่ ช่วยจีมด้วยยย T//////T 
ก็.. ประมาณอาทิตย์กว่าๆ..มั้งยุนกิเกาหลังคอตัวเองด้วยความประหม่า คือกูแค่ชอบมึงนะ มึงไม่ต้องอึดอัด แล้วก็ตอนนี้มึงไม่ต้องชอบกูก็ได้ เพราะเดี๋ยวกูจะจีบมึง 
หูยยย คนตรงไปอีกกก ตรงไปจีมินก็ต้านทานไม่ไหวดิ่~
จะว่าไปก็อยากรู้แฮะว่ารุ่นพี่ตรงหน้าจะจีบเขายังไง เห็นวันๆเอาแต่แกล้ง -*- 
แต่ผมมีคนที่รักแล้ว..พูดออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา 
ใคร.. แทฮยองหรอ?” 
พ่อมึงสิ่! 
มันมีผัวแล้ว!” ฉลาดไปหมดทุกเรื่อง ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องโง่ไม่เข้าท่าด้วยวะคนเรา หมดอารมณ์เขินเลยกู 
“อ่าว แล้วใครวะ..หน้าของยุนกิดูสลดลงไปทันตาจนทำให้เขาเริ่มรู้สึกผิด และหลบสายตามองมือตัวเองที่อยู่บนตัก 
ผมก็ไม่รู้นะเว้ยว่าทำไมถึงรักเขา รู้แค่ตอนเจอเขาวันแรกเขาเป็นคนที่ช่วยผมไว้ ให้ผมมีหอพักอยู่จนถึงทุกวันนี้ 
... 
เขาแกล้งผมทุกวันแต่ก็ห่วงใยผมที่สุด จนผมเริ่มหวั่นไหวแล้วก็รักเขาโดยไม่รู้ตัว
... 
หนึ่งอาทิตย์ที่เขามักจะไม่ค่อยอยู่ ผมก็โคตรเฟล เฟลจนกินไม่ค่อยได้ นอนไม่ค่อยหลับจนเป็นไข้เข้าโรงบาล 
... 
จนวันนี้ที่เขามาบอกว่าชอบผม ถึงมันจะไม่ได้เป็นความตั้งใจ แต่ผมก็โคตรดีใจเลยจีมินเงยหน้าขึ้นมามองรุ่นพี่ของตัวเองก่อนจะพูดต่อออกไป ผมรักพี่นะ พี่ยุนกิ 
จบคำที่จีมินพูด ยุนกิก็กอดคนตัวเล็กทันที ถึงจะเคยล้อว่ามันอ้วน แต่พอมากอดจริงๆจีมินกลับตัวเล็กมากจนไม่กล้ากอดแรงๆ 
ขอบคุณนะ ขอบคุณที่รักกู 
ทำไมต้องขอบคุณด้วยเล่า! ..แต่ก็ขอบคุณนะที่พี่ชอบผม 
ทั้งสองคนกอดกันอยู่สักพักใหญ่เพื่อซึมซับความอบอุ่นของกันและกันเงียบๆ ก่อนจะผละออกมา 
กูแสดงความรู้สึกไม่ค่อยเก่งยุนกิพูดขึ้นมา 
ผมรู้ ผมก็เหมือนกันว่าจบจีมินก็ยิ้มให้ 
แต่กูชอบมึงจริงๆว่ะจีมิน 
            ทั้งสองคนสบตากันสักพัก ก่อนที่ระยะห่างของใบหน้าพวกเขาจะลดลงจนไม่เหลือ ปากอิ่มของคนตัวขาวและปากซีดเพราะฤทธิ์ไข้ของคนบนเตียงประกบกันแนบแน่น ต่างคนต่างหลับตาแล้วปล่อยให้ความรู้สึกพาไป ปากของทั้งคู่ประกบกันเฉยๆอยู่สักพักก่อนที่คนตัวขาวจะกัดริมฝีปากของร่างเล็กเบาๆเพื่อให้อ้าปากก่อนที่จะส่งลิ้นร้อนเข้าไปในอวัยวะเดียวกันของคนตรงข้าม ลิ้นทั้งสองดูดดึงกันอยู่สักพักจนจีมินเริ่มเคลิ้มและนำมือของตัวเองไปคล้องคอพี่ไว้ ยุนกิจึงเอื้มไปกอดเอวคนบนเตียงหวังว่าจะดึงมาหาตัวเองเพื่อลดระยะห่างของตัวทั้งสองคนในขณะที่ปากและลิ้นยังคงไม่ห่างจากกัน 
            แต่.. 
            ฟึ่บ! 
            ยุนกิ! แม่บอ--” 
            พลั่ก! จ๊วบ! 
            เนื่องจากมีสมาชิกใหม่เข้ามา ทำให้พวกเขาคนตกใจผละออกจากกันทั้งที่ยังคงจูบกันอยู่ จนเกิดเสียงน่าอายออกมา 
            และเมื่อจีมินที่เห็นว่าใครเป็นคนเข้ามาก็อาย ล้มลงนอนและคลุมโปงทันที.. 
            ในส่วนของยุนกืที่โดนขัดจังหวะก็มองพี่สาวด้วยความหงุดหงิดเล็กๆ 
            พะ..พี่ขอโทษที่ขัดจังหวะ พี่ไม่รู้ งั้น.. พี่ไปก่อนดีกว่าเนอะยุนอายิ้มแหยๆพร้อมกับออกจากห้องไปเงียบๆ เหมือนทำอะไรก็ผิดเลยเราเนี่ย TT 
            “งื้อ~” เมื่อรู้ว่าพี่สาวของคนตัวขาวออกไปแล้วจีมินที่หน้าแดงเป็นลูกตำลึงก็ผละออกจากผ้าห่มพร้อมส่งเสียงออกมาเพราะเขินอาย 
            โอ๋ๆ ไม่เอาไม่ร้องดิ่ยุนกิพูดพร้อมกับเอามือไปลูบผมกันที่นอนอยู่แล้วหัวเราะเบาๆ 
            พี่ยุนกิ!!” จีมินโคตรอายเลยจริงๆนะเว้ย ไม่คิดว่าจะอายได้มากขนาดนี้ในชีวิต TT 
            “อายทำไมเราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ 
            ก็รู้ แต่อายอ่ะร่างเล็กตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา 
            แต่ว่า พูดถึงเรื่องเมื้อกี้..ยุนกิพูดเกริ่นออกมาก่อนที่จะหยุดไปซักพักหนึ่งทำให้จีมินสงสัย เราจูบกันแสดงว่าเป็นแฟนกันแล้วเนอะ^^” 
            จูบกันแล้วแสดงว่าเป็นแฟนกัน.. ตรรกะไหนของพี่วะเนี่ย! 
            แต่ก็.. 
            “อืม -//////-” 
            “ไหนมากอดอีกทีดิ้ยุนกิอ้าแขนกว้างเพื่อรออีกคนลุกขึ้นมารับอ้อมกอดด้วยรอยยิ้มที่สดใส 
            อื้อ 
            จีมินจึงลุกขึ้นนั่งพร้อมกับเข้าไปกอดอีกคนด้วยหัวใจที่เต้นรัวทันที


..จากตอนแรกที่ได้แค่คิดว่า คงดีถ้าเธอคิดเหมือนกันมันไม่ได้เป็นแค่ความคิดแล้วนะ.. 
จีมินดีใจที่สุดเลย~





__________________________

#HappyJMday!!!! 
เซย์ไฮอาร์มี่ทุกคนที่เข้ามาอ่าน ซึ่งจะมีรึเปล่าก็ไม่รู้ TT
เนื่องในวันเกิดยัยก้อนเมนเราในบังทัน 
บวกกับไปฟังเพลงนึงแล้วสปาร์กเข้าพล็อตฟิคเด้งขึ้นมา 
และอีกอย่าง พีตัมนุนมุลมันดีงามมากเลยค่ะสังคมมมมมม
ผู้ชายก็ดี แถมมีโมเม้นกันอีกต่างหาก ร้องไห้ด้วยความปริ่มอยู่หน้าจอเลย
นั่นแหล่ะค่ะ ทุกๆอย่างผสมรวมกันจึงเกิดเป็นผลงานนี้แหล่ะค่ะทุกคน
มีความเว่นเว้อเพ้อเจ้อมาก แต่อยากจะบอกว่าร้าก~ #ผิดๆ 
เอาเป็นว่าไรท์คนนี้ mintspirit07 ขอฝากฝังฟิคบังทันเรื่องแรกของเราไว้ในความทรงจำด้วยนะคะ~
ถ้ามีอารมณ์จะมาแต่งเรื่องใหม่ ฮ่าาาาาา 
เม้นเป็นให้เราได้นะ ติหรือชมได้หมดเลย 
"เราชอบเม้นแย่ๆ มากกว่าโนคอมเม้นนะ" (by cypher pt.4)
ไม่ใช่ว่าคราวนี้มาเม้นแย่หมดเลยทำไงเนี่ย 55555555 ล้อเล่นค่ะ ><
สุดท้ายนี้หากมีอันใดผิดพลาดขออภัยมาณที่นี้ด้วยนะคะ ไม่ได้แต่งมาครึ่งปีแล้วจึงขัดๆนิดหน่อย ขอโทษน้า
ปล.พูดคุยกับไรท์ได้ที่ทวิตเตอร์ @mintspirit07 นะคะ 
บายยยย จุ๊ป~ <3
สกรีมได้ที่แท็ก #ficOSPR นะคะ