TITLE : SAY LOVE IN MY HEART
CAST : BTS
COUPLE : YOONMIN
FOR : JIMIN BIRTHDAY 2016
RATE : PG
WORDS : 6,261
SAY LOVE IN MY HEART
“โอ้ย!!! หิวข้าวโว้ย!!”
“บ่นอย่างงี้มาทำเองเลยมา!!”
อะไรคือการที่วันอาทิตย์โรงเรียนหยุดทั้งทีแทนที่จะได้นอนตื่นสายแต่กลับต้องมาตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงเพื่อต้องมาทำอาหารให้กับคนที่เป็นทั้งรูมเมทและรุ่นพี่ที่โรงเรียนด้วยเหตุผลที่ว่า.. เจ้าตัวหิวแต่ทำอาหารไม่เป็น!!
คืออะร๊าย!!!!!!!
อย่าแปลกใจว่าทั้งๆที่’จีมิน’บอกว่าคนที่บ่นอยู่นั้นเป็นรุ่นพี่แล้วทำไมตะโกนแหกปากตอบไปจนคนสาปแช่งกันทั้งหอขนาดนั้น ไม่ให้ความเคารพหน่อยหรอ เขาบอกได้เลยว่า ก่อนหน้านี้เขาเองก็ให้ความเคารพรุ่นพี่คนนี้ดีอยู่หรอก เพราะ’พี่ยุนกิ’น่ะ ทั้งเรียนเก่ง เล่นบาสเก่ง แถมเล่นเปียโนเก่งอีกต่างหาก แถมตอนที่ย้ายเข้ามาเรียนมัธยมปลายที่โซลนี้ เขามาช้าทำให้ไม่มีหอเหลือแล้วทั้งนอกและในโรงเรียน (ไม่คาดคิดว่าเรื่องแบบนี้จะมีเกิดขึ้นด้วยในสังคม ตอนนั้นนี่อึ้งไป 5.9376251 วินาทีกันเลยทีเดียว) แต่ด้วยความที่บ้านของเขาอยู่ตั้งปูซานโน้นแหน่ะ จะซื้อคอนโดก็คงจะแพงไปหน่อยบ้านไม่ได้รวยขนาดนั้น ก็เลยคิดหาทางออกไม่ได้ ก็ได้พี่คนนี้แหล่ะยื่นข้อเสนอให้เป็นรูมเมทกันแต่เขาต้องเป็นคนจ่ายค่าหอ ถึงจะเหมือนว่าจะโดนเอาเปรียบไปหน่อยแต่ก็ดีกว่าไม่มีที่อยู่จึงตกลงไป
แต่!!!!!!!!!
ใครจะไปคิดว่าอิพี่มันจะให้เขาทำให้หมดทุกอย่างขนาดนี้กันเล่า! เหนื่อยสายตัวแทบขาดทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะเรียนหนักแต่เป็นเพราะรุ่นพี่คนนี้คนเดียวเลย ไม่รู้ว่าก่อนเขาเข้ามาอยู่นี่อยู่ตัวคนเดียวมาได้ยังไง อยากจะถามแต่ก็กลัวจะโดนตบกระโหลกกลับมาให้ปวดหัวเล่นๆก็เลยไม่ได้ถาม
อันที่จริงทุกวันนี้ก็ไม่อยากจะทำให้มัน (จะเรียกอย่างงี้ใครจะทำไม) นักหรอก ให้แม่งทำเองซะมั่ง..
“แต่กูอยากให้มึงทำให้อ่ะ” ว่าจบก็เดินเข้ามาดมกลิ่นเข้าต้มกุ้งที่ทำ มือก็พลางลูบหัวจีมินไปด้วย “อื้อหืม~ หอมมาก จะรอนะหมูน้อย~”
..แต่ก็ใจอ่อนให้มันทุกที
“ทีหลังอ่ะซื้อพวกโจ๊กสำเร็จรูปมาไว้ที่ห้องมั่งดิ่พี่ ถ้าผมไม่อยู่ทำไงเนี่ย” เขาพูดพร้อมกับนำข้ามต้มสองชาม (ไหนๆก็ตื่นมาทำแล้วก็กินมั่งคงไม่แปลกเนาะ~) มาวางบนโต๊ะญี่ปุ่นที่อีกคนตั้งรอไว้แล้วพร้อมกับนั่งลงตรงฝั่งข้างๆ
“ก็ไม่กินไง”
“จะบ้าหรอพี่ เป็นโรคกระเพาะกินอาหารไม่ตรงเวลาก็อาการกำเริบอีกดิ่”
“เป็นห่วงกูหรอ?” เจ้าตัวพูดพร้อมกับยิ้มหน้าอาแปะ
..เออ เป็นห่วง
“คนเดือดร้อนคือผมปะ?”
แต่ก็เลือกที่จะไม่ตอบไปตามที่คิด ด้วยเหตุผลอะไร..ไม่บอกหรอก :p
“เอ้อ ไม่เคยเป็นห่วงกูหรอกมึงอ่ะ!”
“จะกินป่ะข้าวต้มอ่ะ เห็นบ่นงี้ไม่หิวแล้วใช่ปะจะได้เอาไปทิ้ง”
“เฮ้ย! กินดิ่ จีมินนี่อุตส่าตื่นเช้าขึ้นมาทำให้นี่~” รีบพูดแล้วตักข้าวต้นเข้าปากทันที “แล้วมึงอ่ะไม่กินหรอ?”
“ใครบอกพี่ว่าผมจะไม่กิน”
“โอเคจบ!”
จบคำพูดทั้งสองคนก็นั่งกินข้าวต้มด้วยเสียงหัวเราะ
SAY LOVE IN MY HEART
“นี่ๆ จีมิน” เสียงเรียกพร้อมแรงสะกิดที่ไหล่ทำให้เขาที่กำลังจะลงนอนเงยหน้าขึ้นมาหา
“ห้ะ? ว่าไงแทแท”
คิมแทฮยอง หรือ แทแทที่เขาเรียก เพื่อนสนิทที่เจอกันเพราะนั่งข้างกันตอนเข้าเรียนครั้งแรก แล้วบังเอิญคุยกันถูกคอรวมทั้งเป็นเด็กใหม่ทั้งคู่ ก็เลยอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่วันแรกจนตอนนี้ไฮสคูลปีสองแล้ว ถ้าถามว่าพวกเขาไม่มีเพื่อนคนอื่นคบหรอ ทำไมอยู่กันแค่สองคน? ไม่ใช่อย่างนั้นนะ เราก็เพื่อนเยอะอยู่แหล่ะ โดยเฉพาะแทฮยอง เพราะรายนั้นเป็นคนร่าเริง (มากเกิ๊นนนนนนน) เจอใครก็เข้าไปทักหมด ในส่วนของจีมินเองก็เป็นคนร่าเริงแต่ไม่ถึงขั้นแทฮยองไง บวกกับนิสัยที่ค่อนข้างขี้อายมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยเพื่อนน้อยกว่าแทฮยองนิดหน่อย ด้วยเหตุผลแค่นั้นจริงๆ ไม่ใช่เพราะว่าแทฮยองโคตรหล่อหรอก
อ้อ เขาบอกรึยังนะว่าอยู่ที่โรงเรียนเขาใส่แว่นน่ะ แถมหน้าซีดมาก คนอื่นๆก็เลยไม่รู้หรอกว่าจริงๆแล้วเขาน่ะน่ารักแค่ไหน~ (มีความมั่นหน้า)
“ไปห้างกัน~” ตากลมของแทฮยองเมื่อพูดดูมีประกายขึ้นมา
อะไรของมันวะ
“ไปทำไมวะ ขี้เกียจ อยากนอนอยู่บ้านง่ะ” ว่าแล้วก็บิดขี้เกียจแล้วเอียงหัวนอนบนโต๊ะเรียน (คาบสุดท้ายหมดเวลาแล้วแต่อยากนอนก่อนอ่ะ มีไรมั้ย?)
“ก็ไปเดินเล่นด้วย เล่นเกมด้วย..” แทฮยองทำหน้าครุ่นคิดอยู่สุกพักก็โพล่งออกมา “อ้อ! แล้วก็ไปซื้อของทำงานด้วยไง ส่งพรุ่งนี้ด้วยนี่นา กูยังทำไมเสร็จเลยอ่ะ”
“งานไรวะส่งพรุ่งนี้?” ทำไมจำไม่เห็นได้เลย..
“งานเจ๊ซอนมีอ่ะ ที่ทำใส่ฟิวเจอร์บอร์ดไง.. อย่าบอกนะว่ามึงลืม” แทฮยองพูดพร้อมกับทำหน้าว่า ถ้ามึงลืมนี่ตายหยังเขียดแน่ๆ
และกูนี่คงตายหยังเขียดแน่ๆ
“ก็กูลืมอ่ะดิ่ เวรเอ้ย!!!!!”
เจ๊ซอนมีคือครูสอนวิชาการงานที่โหดสัสจนครูห้องปกครองยังยอมแพ้ ถ้าพี่แกสั่งงานแล้วส่งไม่ตรงเวลา หรือ งานไม่เรียบร้อย เตรียมติด ร. ทันที ได้ยินมั้ย ติด ร. ทันที!!!! ถ้าแม่รู้นี่เอาจีมินตายแน่เลยฮือออ ทุกวันนี้คะแนนสอบยิ่งไม่ค่อยจะดีอยู่ ว่าแล้วก็รีบลุกรีบเก็บของใส่กระเป๋าทันที
“จะรีบไปไหนวะมึง?” แทฮยองที่เห็นเพื่อนสนิทรีบเร่งเก็บของใส่กระเป๋าจึงถาม
“ก็ไปซื้อของดิ่วะ มึงจะรอให้เจ๊ซอนมีมาเอาตัวรอเรือมาติดหัวกูรึไง ป่ะ!” จบคำพูดปุ๊ปก็ลากเพื่อนสนิทไปด้วยทันที
“เฮ้ยช้าๆก็ได้มั้ง..!”
.
.
“จะทำทันหรอวะ ทำฟิวเจอร์บอร์ดเป็นเล่มๆเลยนะเว้ย” ในขณะที่พวกเขาทั้งสองคนกำลังเดินหาวัสดุในการทำงานแทฮยองก็ถามขึ้นมา
“ไม่ทันก็ต้องทันแหล่ะวะ” ก็แค่คืนนี้ไม่ต้องนอน แค่นั้นเอ๊งงงงงง TT TT
“แล้วหาข้อมูลไว้แล้วอ่อ?”
ข้อมูลที่ว่าก็คือเรื่องเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร ค้นหาข้อมูล และความรู้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตน่ะ
“หาไว้นานแล้ว แต่แค่ลืมทำ”
“เออ ก็ดีไป งั้น..” แทฮยองที่เหมือนจะพูดต่อแต่แล้วก็หยุดไปทำให้เขาที่ก้มเลือกกระดาษสีอยู่ต้องหันไปมอง “กูไปก่อนนะ!”
พูดจบก็วิ่งโร่เข้าไปหาแฟนเด็กของตัวเองทันทีไม่รอให้จีมินบ่น
อิเพื่อนเฬววววววววว!!!!!
ถึงว่าล่ะตอนชวนมาห้างนี่ตาเป็นประกายเชียว ที่แท้ชวนมาหาผัว -*- แต่ก็ดีไปที่ทำให้เขานึกได้ว่ามีงานล่ะนะ ช่างมัน
ขาเดินเลือกหาวัสดุไปอีกสักพัก พอได้ครบก็จึงไปจ่ายเงิน ซึ่ง! โคตรพะรุงพะรังเลยว่ะ - -
เดินแบกของต่างๆอย่างทุลักทุเลไปได้สักพักก็รู้สึกว่ามีอีกมือหนึ่งมาช่วยจับของ..
“เดี๋ยวช่วย”
เสียงเมาๆวิธีการพูดเมาๆนี่มันพี่ยุนกิ? ว่าแล้วก็ชะเง้อหน้าออกจากของพะรุงพะรังต่างๆออกไปมองหน้าคนที่บอกจะช่วย ..พี่ยุนกิจริงๆนี่หว่า! มาได้ไงวะ
“เดี๋ยวช่วย” พูดซ้ำอีกรอบก่อนจะทำท่า..เขาเรียกว่าไงอ่ะ อ้าแขนรอรับกระดาษ อืม อะไรประมาณนั้น
และด้วยความไม่อยากขัดความหวังดีของคุณรุ่นพี่จึงส่งของให้เจ้าตัวถือ..เกือบทั้งหมด จีมินไม่ได้ขี้เกียจถือเลยนะจริงๆ -.,-
“แล้วนี่พี่มาได้ไงอ่ะ” ระหว่างที่รอแคชเชียร์คิดเงินก็ถามสิ่งที่สงสัย
“กับเพื่อน” แล้วพี่ยุนกิก็ตอบมาสั้นๆ สั้นจริงๆ - -
“อ้าว แล้วเพื่อนอ่ะ”
“แยกออกมา” แล้วก็ตอบมาสั้นๆพร้อมกับมองไปที่ของที่ซื้อมา
“หมายความว่าเพื่อนแยกออกหรือพี่แยกออก?” นี่งงนะเนี่ย งงจริงๆ
“..อืม”
ห้ะ!
WHAT THE F*CKKKKK!!!!!!!!!!!!!!
อิฟหกด่าสวลำบพยะนัรีปแมอทื!! ก็รู้นะว่าอยู่ข้างนอกต้องคีพลุคมินยุนกิสุดเท่ขวัญใจประชาชน แต่ก็ไม่ต้องขนาดนี้มั๊ยยย นี่รูมเมทรึเปล่า รู้กันหมดไส้หมดพุงแล้วจะต้องคีพลุคอะไรหนักหนา! โอ้ยหมันไส้ -^-
พอแคชเชียร์คิดเงินเสร็จก็รีบจ่ายเงินแล้วหยิบของบางส่วนมาถือแล้วเดินออกไปทันที ส่วนอีกเกือบทั้งหมดก็ให้พี่มันถือไง จีมินไม่ลืมหรอกนะที่พี่มันบอกจะช่วยน่ะ แล้วก็แค้นมากด้วย คอยดูกลับห้องไปกูจะไม่คุยกับมึง!
.
.
“นี่ซื้อมาทำอะไรวะ”
“...”
“เยอะแยะชิบหาย”
“...”
“ถือแม่งก็หนัก”
“...”
มินยุนกิคนพูดมากกลับมาแล้วครับสังคม นี่ก็สงสัยว่าประตูห้องมันมีมนต์อะไรร่ายไว้รึเปล่า หลังจากที่เดินเข้าหอมาเงียบๆไม่พูดอะไรสักคำพอผ่านประตูห้องมาเท่านั้นแหล่ะ.. บ่นเป็นต่อยหอยเลยสัส!
“นี่จีมิน.. มึงจะไม่คุยกับกูหรอ” คนเป็นพี่ถาม
“...” เออ กูจะไม่คุยกับมึง จำวรั้ย!
“จีมินนี่ครับ จะไม่คุยกับพี่จริงๆหรอ?”
“...” อะ.. เออไง!! *หลบตา
“จีมิน..” คนพี่เห็นว่าน้องหลบตาก็นำมือจับแก้มจีมินทั้งสองข้างให้หันมาสบตากัน
อิเหี้ยย ทำไรมึงเนี่ย!!
ถึงในใจด่าไปอย่างนั้น แต่พอความจริงก็ได้แค่ยืนนิ่ง ตารีเล็กของตัวเองเปิกกว้างด้วยความตกใจ ..ระคนหวั่นไหว
ใบหน้าเรียวขาวที่มองเผินๆแล้วดูนิ่งเฉย แต่ทว่าตาเล็กกำลังมองเขาอยู่ด้วยสายตาอบอุ่น บวกกับมือที่กำลังจับแก้มของเขาทำให้ใบหน้าเราห่างกันไม่ถึงคีบ
“..หายโกรธพี่นะครับ” น้ำเสียงนุ่มที่พูดออกมาจากปากคนตรงหน้านี่มัน.. กูตาย กูตายแน่ๆ ฮือออออ
“อะ..เออ ออกไปได้แล้ว..” โอ้ยย ทำไมพูดออกไปเสียงเบาขนาดนี้! แล้วไอ่อาการร้อนที่หน้ามันคืออะไร๊!!
อิหัวใจมึงหยุดเต้นแรงเดี๋ยวนี้นะ!!!!
แล้วพี่ยุนกิปล่อยมือที่จับหน้าเขาอยู่ออก แล้วก็ยิ้ม
มะ..มึงยิ้มอะร๊ายยยยยย!!!!!!
“ยิ้มไรพี่!?” ถามออกไปเสียงดังพร้อมกับอาการร้อนที่หน้าเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
“...” แต่คนถูกถามกลับไม่ตอบ แล้วทำเพียงแค่ยักไหล่แล้วก้มลงไปมองของที่พื้น “สรุปซื้อมาทำไมเนี่ย?”
....ไอ้.... อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง มึงบอกกูมาเดี๋ยวเน้!!!!!!
00 : 10 น.
“มึง กูง่วง” คนตัวขาวที่ช่วยเขานั่นทำงานอยู่บ่นขึ้นมา
“ง่วงก็ไปนอนดิ่พี่” พร้อมกับที่มือของเขาชี้ไปที่เตียง “งานผม เดี๋ยวที่เหลือผมทำเอง”
“ไม่เอา กูจะช่วยมึงก่อน” ว่าจบก็สะบัดหัวไล่ความง่วงไปอีกรอบ
เอ้า! ใครใช้ให้ช่วยครับ?
“ไปนอนเหอะ” เห็นแล้วสงสารว่ะ
คำหลังพูดออกไปไม่ได้ เกรงว่าเดี๋ยวจะโดนตบกะโหลกพัง --
“...” จบคำของจีมินยุนกิก็เงยหน้าขึ้นมาสักพัก “อืม”
แล้วลงนอนที่ตักนุ่มของคนเด็กกว่าแล้วหลับตาพริ้มทันที
คืออะไร๊!!
“พี่ ผมหมายถึงไปนอนที่เตียง..”
“ไม่เอาอ่ะ จะนอนตักจีมิน..” เจ้าตัวพูดพร้อมกับลืมตาขึ้นมา ยิ้ม แล้วลูบหัวจีมิน “สู้ๆนะครับ”
..จากนั้นก็หลับตาไปต่อ
ตึกๆ ตักๆ ตึกๆ ตักๆ
พัง พังแน่ๆ ตัวจีมินเนี่ยพังแน่ๆ ฮือออออ แม่ครับจีมินโดนคนที่แอบชอบแอทแทคใส่แรงมาก จีมินต้องตายแน่ๆเลยแม่ ตัวจีมินร้อนไปหมดเลย โดยเฉพาะที่หน้าอ่ะแม่ โฮรรรรรรรรรรรรรรรรร
ตอนแรกก็โคตรสงสัยว่าทำไมร้อยวันพันปีอิพี่มันไม่เคยดีต่อใจขนาดนี้ แล้ววันนี้มันเป็นอะไร แอทแทคกูจังเลย แต่แม่ง! ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกแล้ววว พี่มันเอาสมองจีมินไปแล้วด้วยครับทุกคน
หลังจากนั่งเขิน เวิ่นเว้อ เพ้อเจ้อไปได้สักพักก็ตบหน้าตัวเองเบาๆเรียกสติให้ตัวเองกลับมาโฟกัสกับงานที่ต้องทำ แต่..
โอ้ยเขินนนน ฮือออออออ TT//////TT
[ Yoongi’s Part ]
6 : 30 น.
เช้าแล้วหรอวะ?
แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาที่ดวงตาของเขาที่หลับอยู่ทำให้ต้องจำใจตื่นขึ้นมา..ถึงแม้จะไม่อยากตื่นแค่ไหนก็เถอะ
หลังจากลืมตาขึ้นมาช้าสิ่งแรกที่เห็นคือหน้ากลมของเจ้าของตักที่เขากำลังนอนหลับตาพริ้มพิงโซฟาด้านหลังอยู่
..อ่า นั่งทำงานทั้งคืนเลยสิ่นะ..
คิดได้ดังนั้นจึงลุกขึ้นนั่ง กวาดสายตาไปทั่วก็เห็นบรรดาเศษกระดาษ ฟิวเจอร์ปอร์ดที่ถูกตัดแล้วระเกะระกะทั่วห้องไปหมด
..เก็บให้ก็ได้
ว่าแล้วก็เก็บเศษขยะต่างๆลงเข้าถุงดำกวาดพื้นให้จนสะอาด ส่วนงานที่เสร็จเป็นเล่มแล้วก็เอาวางไว้บนโซฟา พอคิดว่าเสร็จหมดแล้วจึงเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดไปเก็บพร้อมกับวางถุงดำไว้หน้าประตูกันลืมเอาไปทิ้ง
..ต่อไป ไอ่อ้วน
จะอุ้มมันไปนอนดีๆดีมั้ยวะ
คิดไปคิดมาอยู่สองสามนาทีก็ตัดสินใจได้
เอาวะ! ถึงตัวมันจะหนักแต่ก็คงไม่เท่าไหร่หรอก
คิดในใจเสร็จก็เดินเข้าไปหาร่างที่นอนอยู่แล้วช้อนแขนเข้าไปใต้ขาและหัวไหล่ของเจ้าตัวอ้วนแล้วอุ้มยืนเต็มความสูง..
อั่ก! หนักชิบหาย
ไม่รอให้เสียเวลาก็อุ้มคนในอ้อมแขนไปที่เตียงนอนแล้วค่อยๆวางทันที
ชาเลยแขนกู - -
แต่แล้วอยู่ดีก็คิดขึ้นมาได้.. ทำไมกูไม่อุ้มมันไปนอนแค่โซฟาพอวะ!? นี่มึงโง่หรือมึงโง่เนี่ยมินยุนกิ!!
หงุดหงินงุ่นง่านกับความโง่ของตัวเองไปก็หันไปดูนาฬิกาพบว่าเจ็ดโมงแล้ว.. ไปอาบน้ำก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยปลุกไอ่หมูตอนโมงครึ่งแล้วกัน โรงเรียนเข้าตั้งแปดโมงสิบห้า
[ END Yoongi’s Part ]
หืม? กลิ่นไรอ่ะ?
เพราะได้กลิ่นอาหารทำให้เขาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความแปลกใจ ‘ใครทำอะไรวะ?’ ด้วยความสงสัยจึงลุกออกจากเตียง.. เดี๋ยวนะ เตียง? เท่าที่จำได้คือพอทำงานเสร็จตีห้าก็นอนพิงโซฟานี่หว่า และมาอยู่บนเตียงได้ไงวะ?
เออ ช่างมันก่อน ตอนนี้สงสัยเรื่องของกินมากกว่า
เดินออกมาก็เจอโต๊ะญี่ปุ่นถูกตั้งไว้กลางห้องพร้อมกับปาท่องโก๋และน้ำนม..หรือเต้าหู้? อะไรสักอย่างนี่แหล่ะอยู่บนโต๊ะ มองหาตัวคนจัดการก็เจอพี่ยุนกิแต่งชุดนักเรียนเรียบร้อยกำลังถือชามโจ๊กมาวางบนโต๊ะ
“อ้าวตื่นแล้วหรอ กำลังไปปลุกเลย ไปล้างหน้าแปรงฟันไป กูซื้อข้าวเช้ามาให้จะได้มากิน”
เห้ย!!!! เมื่อวานว่าแปลกแล้ว วันนี้แปลกกว่าอีก!!!
ว่าแล้วก็เดินไปหาคนตัวสูงกว่า ( 1 cm. ) แล้วเอามืออังหน้าผาก
“ตัวก็ไม่ร้อนนี่หว่า”
“อะไรของมึง” คนตัวขาวถามด้วยความสงสัย
“พี่แปลกๆ ร้อยวันพันล้านปีพี่ไม่เคยดีขนาดนี้..”
“...” เกิดความเงียบพร้อมกับรังสีอมหิตแผ่ออกมา “แล้วจะกินมั้ย?”
“กะ..กินคร้าบ” ปล่อยมือออกมาจากหน้าผากคนตรงหน้า ทำท่าตะเบ๊ะรับทราบแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟันทันที
น่ากลัวชิบหาย ><
.
.
“เสร็จแล้ววคร้าบบบ” หลังจากที่เขารีบล้างหน้าแปรงฟันสุดชีวิตเสร็จ เพื่อมากินอาหารเช้ากับพี่ชายตาตี่ (ที่เริ่มจะแปลกขึ้นทุกๆวัน)
“เออ มานั่งเร็วๆ รออยู่”
เห็นมั๊ย แปลกจริงๆนะ!
“ว่าแต่พี่เก็บของให้ผมอ่อ?” ในขณะที่นั่งกินโจ๊กอยู่ร่างเล็กก็ถามขึ้นมาพร้อมกับกวาดสายตาไปรอบๆห้อง ซึ่งดูสะอ้าดสะอ้านต่างจากที่เขานั่งทำงานเมื่อคืนลิบลับ
“ไม่ใช่มึงก็กูแหละ” แล้วก็ตักโจ๊กเข้าปาก
ขอบคุณ -*-
“แล้วทำไมผมไปนอนบนเตียงได้วะพี่?”
“ไม่ใช่มึงก็กูแหละ” แล้วก็ตักโจ๊กเข้าปาก
เออ!! กูไม่ถามมึงแล้วบอกเลย!
ยุนกิที่เห็นตัวเล็กทำหน้าตาง้ำงอก็หัวเราะออกมานิดหน่อยพร้อมกับมือที่ไปลูบผมจีมินด้วยความเอ็นดู
“ล้อเล่นน่า ขี้งอนจังนะเราอ่ะ” ว่าแล้วก็ละมือที่ลูบผมน้องมาประคองหน้าตัวเอง “พี่อุ้มเราไปเองแหละ ^^”
อุ้ม? อิพี่เนี่ยนะอุ้มเขา!?
“บะ..บ้าน่า พี่เนี่ –“
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
ก่อนที่จีมินจะพูดเสร็จก็มีเสียงเคาะประตูห้องออกมาก่อน..
“เดี๋ยวกูไปเปิดเอง” พี่ยุนกิพูด พร้อมกับเดินไปเปิดประตูห้อง
เมื่อเปิดประตูออกมาก็เป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวย ตากลมโตดูดึงดูด และริมฝีปากเป็นกระจับ ที่จีมินบอกได้ในฐานะผู้ชายคนนึงเลยว่า น่ารักมากกกกกกก!
ด้วยความที่หอนี้เป็นหอนอก จึงไม่ได้แยกชายหญิง ผู้หญิงหรือผู้ชายจะขึ้นมาจึงไม่แปลก
และทันทีที่หญิงสาวคนนั้นเห็นว่าใครที่เป็นคนออกมาเปิดประตูก็กระโดดกอดทันที
“ยุนกิ!!! คิดถึงจัง!! ><”
เฮ้ย! ใครวะ!?
SAY LOVE IN MY HEART
“จีมินวันนี้กูไม่นอนห้องนะ”
.
“จีมินเย็นนี้ไม่ต้องรอกินข้าวนะ กูคงกลับดึก”
.
“จีมินกูไปโรงเรียนก่อนนะ”
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ตั้งแต่ที่มีผู้หญิงคนนึงมากระโดดกอดรุ่นพี่เขาที่หน้าห้อง เจ้าตัวก็ไม่ค่อยได้กลับห้อง ไม่ค่อยได้กินข้าวพร้อมกัน ไม่ค่อยให้จีมินได้เห็นหน้าเลย วันหยุดที่ผ่านมาก็ไม่อยู่ห้อง ตอนเช้าก็ไปโรงเรียนก่อน เลิกเรียนบางวันก็กลับซะดึก และวันนี้ก็คงเช่นกัน..
จีมินที่นั่งรอรุ่นพี่ตัวขาวของตัวเองตั้งแต่หกโมงเย็นด้วยเพราะคนตัวขาวบอกว่าจะกินข้าวด้วย แต่จนตอนนี้ใกล้สองทุ่มแล้วยังไม่กลับมาเลย ..กับข้าวเย็นชืดไปหมดแล้วมั้งไอ่พี่บ้าเอ้ย..
คิดได้ดังนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาโทรไปถามสักหน่อย
<ฮัลโหล> รอไม่นานเจ้าตัวก็รับสาย
“อยู่ไหนเนี่ยพี่?”
<ทำไมอ่ะ มึงมีไร?> เสียงรุ่นพี่ตัวขาวถามกลับมาด้วยความสงสัย
ลืมงั้นหรอ?
“เอ้า! ก็พี่บอกเองว่าจะกลับมากินข้าวที่หออ่ะ เลยถามว่าจะกินมั้ย” เขาแกล้งตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่กึ่งโมโหนิดหน่อย
<เออว่ะ เห้ย! กูขอโทษจีมิน กูลืมอ่ะ>
..ลืม..
คำที่พ่นออกมาทางโทรศัพท์ทำให้เขาที่น้อยใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งรู้สึกเหมือนมีมีดมากรีดที่หน้าอกฝั่งซ้าย
“เออ ดีละ ผมจะได้ไม่ต้องทำใหม่” พูดออกไปด้วยกับน้ำเสียงที่ทำให้ดูปกติที่สุด ทั้งที่ตอนนี้เริ่มรู้สึกเหมือนมีก้อนบ่างอย่างมาจุกอยู่ที่คอ และน้ำใสๆมาขวางการมองเห็นไว้..
<นี่มึงกินแล้วใช่ปะ?>
“กินแล้วดิ่” ..ซะเมื่อไหร่ล่ะ
<เออดีๆ วันนี้กูกลับช้านะไม่ต้องรอ>
“อืม..”
<แค่นี้ใช่ปะ>
“ครับ..”
<งั้นวางละนะ> เสียงปลายสายถามออกมา ซึ่งเขาก็อยากจะถามกลับเหมือนกัน..
..รั้งได้ด้วยหรอวะ
“อืม”
<แค่นี้ล่ะ ฝันดี..> เสียงอีกคนพูดจบแต่ยังไม่ทันได้วางสายก็มีเสียงผู้หญิงออกมา.. <ยุนกิเสร็จยาง~ นูน่าทำเค้กเสร็จแล้วนะ>
“....”
<โอเคๆ ไปแล้ว-->
ตื้ด!
เสียงกดตัดสายจากทางอีกฝั่งดังขึ้นพร้อมกับน้ำตาของจีมินร่วงลงสู่พื้นห้อง ทั้งที่มือยังคงถือโทรศัพท์ค้างไว้ที่ใบหู
‘ไอ้บ้าจีมิน อย่าร้องไห้ดิ่วะ’ เสียงเตือนสติจากข้างในตัวเองที่เรียกร้องออกมาไม่ทำให้น้ำตาหยุดไหลได้เลย กลับกันยิ่งทำให้เขาร้องไห้หนักกว่าเดิม
“ฮึก..” เสียงสะอื้นดังขึ้นในห้องที่เงียบสงัดและเด็กชายที่นั่งร้องไห้อยู่ที่พื้นพร้อมกับโต๊ะญี่ปุ่นที่มีกับข้าวหลายอย่างวางอยู่เต็มไปหมด มองยังไงก็น่าสมเพชเนอะ ขนาดเขายังสมเพชตัวเองเลย ถึงแม้ทั้งที่ในหัวบอกให้เลิกร้องไห้แค่ไหน แต่ในหัวใจกลับยิ่งเจ็บเหมือนโดนใครกรีดมีดซ้ำๆๆไม่รู้จบ นึกว่าอีกคนมีความสุขอยู่กับคนอื่นก็ยิ่งเจ็บ หวง แต่ถามตัวเองว่ามีสิทธิอะไร ก็ตอบไม่ได้ ก็ไม่ได้มีสิทธิอะไรนี่เนอะ เป็นแค่รูมเมทและรุ่นน้องธรรมดาๆ.. พอนึกมาถึงตรงนี้ก็ยิ่งเจ็บ ไม่เอาสิ่จีมินเลิกคิดซะเลิกคิด..
“ฮึก อะ..” คงเพราะร้องไห้หนักจึงทำให้อาการไข้ที่เป็นสะสมมาได้สองสามวันกำเริบ แรงบีบที่หนังศีรษะทำให้จีมินที่ร้องไห้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วร้องไห้หนักยิ่งไปอีก พร้อมกับเหงื่อที่ไหลซึมออกมาเพราะความปวดหัว มือทั้งสองข้างเอาขึ้นมากุมหัวเพราะความเจ็บปวด ก่อนที่จะหายไปพร้อมกับสติดับลง..
SAY LOVE IN MY HEART
[ YOONGI’s PART]
“เข้าห้องไปได้แล้ว~”
เสียงหวานจาก’ยุนอา’ พี่สาวแท้ๆคนสวยของเขาที่เพิ่งกลับจากอเมริกามาได้ไม่นานไล่เขาเข้าห้องของตัวเองไป แต่ว่า..
“ถ้าผมเข้าไปแล้วก็ไม่ได้เจอพี่แล้วอ่ะดิ่” ว่าแล้วก็ทำหน้าตาง้ำงอใส่
ติดพี่สาวมาตั้งแต่เด็กผิดรึไง? ยิ่งนานๆทีได้เจอกันก็ยิ่งคิดถึงดิ่ -^-
“พี่จะกลับไปหาที่บ้านบ้างไม่ได้รึไงเล่า~” ยุนอาพูดพร้อมกับยีผมน้องชายด้วยความเอ็นดู
ที่บ้านก็หมายถึงบ้านเกิดที่แดกู เพราะครอบครัวอยู่ที่นั่น และพี่สาวก็บอกจะขับรถไปในวันพรุ่งนี้ ถึงได้อาลัยอาวรณ์อยู่นี่ไง
“เอาน่า เดี๋ยวก่อนกลับพี่จะมาแวะหาอีกทีโอเค๊?” พูดแล้วก็จับไหล่น้องชายให้หันเข้าประตูห้อง “แล้วตอนนั้นก็พาน้องสะใภ้มาหาด้วยนะคะน้องรัก~”
“พี่ยุนอา!”
“ฮ่าๆ ไปแล้วนะ ดูแลตัวเองดีๆ” ว่าจบก็เดินวิ่งไปทันทีก่อนจะถูกน้องชายทำร้ายร่างกาย รายนี้พี่สาวก็ไม่เว้นน่ะบอกเลย
หลังจากพี่สาวไปแล้วยุนกิก็ยิ้มพร้อมกับไขประตูห้อง ที่พี่สาวเขาพูดถึงน้องสะใภ้นั่นก็หมายถึงจีมินน่ะ เขาที่เพิ่งรู้ตัวเองไม่นานมานี้ว่าที่ชอบแกล้งน้องหยอกน้องแต่ก็อยากอยู่ใกล้ๆน้องนั้นเป็นเพราะเขาชอบจีมิน แต่เขาก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะดูเหมือนน้องจะมองคนแค่เป็นพี่น้อง (พูดแล้วจุก TT) ประจวบเหมาะกับที่พี่สาวผู้มีประสบการณ์(?)กลับมาเยี่ยมพอดี ด้วยความคิดถึงและอยากได้คำปรึกษาถึงการทำให้น้องหวั่นไหวแบบเนียนๆ ทำให้หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาติดอยู่กับพี่สาวตลอด
แกร๊ก
ไขประตูเข้าไปก็พบกับความแปลกใจเพราะทั้งห้องยังคงสว่างโร่ ไม่ได้ถูกปิดไฟไว้ทั้งๆที่ก็เกือบจะห้าทุ่มแล้ว
ยังไม่นอนหรอวะ?
ปิดประตูห้องพร้อมกับเดินเข้าไปก็พบกับกับโต๊ะญี่ปุ่น่ทีมีอาหารเต็มโต๊ะไปหมด ซึ่ง..ทำไว้ทำไมว่ะ แต่ความสงสัยก็ถูกกลบไปเมื่อเห็นร่างของรุ่นน้องที่คุ้ยเคยนอนอยู่ข้างๆโต๊ะนั้นจึงเดินเข้าไปใกล้หวังจะแกล้งให้น้องตกใจตื่น แต่ก็ต้องตกใจเสียเองเมื่อพบว่าใบหน้ารุ่นน้องนั้นซีดเซียวราวกับไม่มีเลือด ริมฝีปากแห้งผาก เหงื่อที่ออกตามไรผม และ.. คราบน้ำตา
“จีมิน!!!”
[END YOONGI’s PART]
SAY LOVE IN MY HEART
“อืม..” ร่างบางลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับปรับโฟกัสสายตาก่อนจะพบว่าที่ๆนอนอยู่นั้นไม่ใช่ห้องของตัวเอง กำแพงและเฟอร์นิเจอร์สีขาวล้วน กลิ่นยาอ่อนๆ เตียงที่นอนอยู่ถูกวางไว้กลางห้องบวกกับที่หลังมือของตนเองมีสายน้ำเกลือเจาะอยู่
โรงพยาบาล? แล้วเขามาอยู่ที่นี่ได้ไงกัน?
สายตาเหลือบไปเห็นน้ำข้างเตียงก็ยกขึ้นมาดื่มเพราะความหิวกระหาย แล้วนึกย้อนกลับไปที่ความทรงจำสุดท้ายคือเขารอพี่ยุนกิทานข้าวแต่เจ้าตัวก็บอกว่าลืมหลังจากนั้นก็ร้องไห้ ปวดหัวแล้วหมดสติไป..
พี่ยุนกิหรอ? แล้วกับข้าวนั่น!?
ไม่ทันที่จะได้คิดอะไรต่อประตูห้องก็ถูกเปิดออกมาพร้อมกับร่างของคนที่กำลังนึกถึงอยู่
..พี่ยุนกิ
“จีมินฟื้นแล้วหรอ!? ปวดหัวมั้ย?” ร่างขาวเมื่อเห็นรุ่นน้องตัวเองฟื้นแล้วก็รีบวิ่งเข้ามานั่งเก้าอี้ที่ข้างเตียง วางขนมของกินที่ซื้อมา (ให้ตัวเอง) จัดท่านั่งให้น้อง แล้วเอาหลังมือทาบหน้าผากคนป่วยเพื่อวัดไข้
“ไม่เป็นไรแล้วพี่ ขอบคุณนะ” จีมินตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มตาหยีให้ ก็แอบดีใจที่พี่เขาเป็นห่วงนี่นา
“จริงๆนะ?” เมื่อน้องบอกไม่เป็นไรจึงนำมือเก็บมาไว้ที่ข้างเตียง “มึงรู้ป่าวกูกับพ่อแม่มึงนี่โคตรเป็นห่วงเลยนะเว้ย เป็นไข้หนักขนาดนี้ทำไมไม่บอกกันเลยวะ”
“....” อยู่ให้บอกรึไงเล่า -^-
“ตอนกูเจอมึงที่บ้านแถมตัวโคตรร้อนจี๋เลยกูนี่ทำอะไรไม่ถูกเลย พอพามาโรงบาลหมอบอกว่ามึงเป็นไข้แถมไม่ค่อยได้พักผ่อนอีก” ยุนกิเงียบไปพักหนึ่ง “ทำไมไม่ดูแลตัวเองเลยวะมึงอ่ะ!?”
“....”
“ทำให้คนเขาเป็นห่วงอยู่เรื่อย มึงรู้มั้ยมึงหลับไปกี่วัน.. สามวันเลยนะเว้ย! กูนี่แทบไปเรียนไม่เป็นสุขเลย..”
“ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วนี่นา”
“ไม่ได้เป็นห่าไรล่ะ!? เออ แต่กูก็ขอโทษนะเว้ยที่ดูแลมึงไม่ดี กูเป็นพี่แท้ๆ”
“พี่ยุนกิ..” มือเล็กเอื้อมไปจับมือของรุ่นพี่ไว้
“เออ ว่าแต่วันนั้นทำกับข้าวไว้แล้วทำไมไม่บอก” ยุนกิที่อยู่ดีๆก็โพล่งขึ้นมาอีกทำให้เขาแอบตกใจนิดหน่อย
“ห้ะ!?” วันไหนว่ะ
“วันที่มึงสลบไปนั่นแหละ” อุ้ย อ่านใจออกหรือไร?
“ก็พี่บอกไม่กินแล้วนี่หว่า..”
“กูขอโทษ” ยุนกิพูดด้วยความรู้สึกผิด
“เห้ยพี่ไม่เป็นไร ตอนแรกกะว่าจะเอาใส่ตู้เย็นไว้กินวันอื่นไง แต่ดันปวดหัวสลบไปก่อน..มั้ง” เขาโกหก
“แล้วมึงร้องไห้ทำไม” ยุนกิถาม แต่เมื่อเห็นน้องทำหน้าไม่เข้าใจจึงขยายความ “กูเห็บคราบน้ำตามึงวันนั้น”
“อ๋อ~ ก็ปวดหัวไง” โกหกอีกแล้วนะปาร์คจีมิน
“แล้วทำไมไม่โทรมาบอก! จะได้รีบกลับ” ร่าวขาวตะโกนขึ้นมาจนเขาสะดุ้งตกใจ
“กะ ก็.. ไม่อยากรบกวนเวลาพี่อยู่กับแฟนนี่นา” พูดถึงตรงนี้แล้วน้ำตาจะไหลแฮะ อดทนไว้น่าปาร์คจีมิน อดทนไว้
“ห้ะ?” หน้ายุนกิตอนนี้บ่งบอกว่างงมาก นี่ยุนกิไปมีแฟนตอนไหนว่ะ
“ก็วันนั้นผมได้ยินเสียงผู้หญิง..”
ยุนกิทำหน้าคิดไปพักหนึ่ง
“อ่อ พี่ยุนอาอ่ะนะ?”
“....” เออ จะยุนอายุนอียุนอูอะไรที่หายไปอยู่ด้วยกันทั้งอาทิตย์นั่นแหล่ะ
“นั่นมันพี่สาวกู พี่สาวแท้ๆ ไอ่บ๊อง” ยุนกิขำพร้อมกับยื่นมือเข้าไปยีผมน้อง
อ้าว! พี่สาว! อ้าว!!!!!
แล้วที่กูดราม่าเสียน้ำตาไปนี่เพื่ออะไร!!!!!!!!
แต่จะว่าไปพี่ยุนกิก็เคยพูดว่ามีพี่สาวเรียนอยู่อเมริกา แต่เขาก็ไม่เคยเห็นหน้า ก็เลยเข้าใจผิดไปอีก -*-
ไม่ทันที่ทั้งสองคนจะได้พูดอะไรกันต่อก็มีสมาชิกใหม่ที่ไม่คาดคิดเข้ามา
พี่สาวพี่ยุนกิ..!! ชื่ออะไรนะ ลืม -[]-
“ยุนกิ! ไม่บอกพี่เลยว่าอยู่ห้องไหน พี่ก็ถามหาไปดิ่!!” ร่างบางที่เข้ามาใหม่บ่นน้องชายตัวเองที่ทิ้งไปตั้งแต่จอดรถทั้งๆที่พี่ก็เพิ่งกลับมาจากบ้านวันแรก ไอ่เด็กนิสัยเสีย - -
“ขอโทษพี่ยุนอา ลืมอ่ะ ฮ่าๆๆๆ”
อ่อ ชื่อพี่ยุนอา~
“จิ๊!” หญิงสาวค้อนใส่น้องชายตัวเองก่อนที่จะหันไปมองคนที่กึ่งนั่งอยู่บนเตียงแล้วถลาเข้าไปหาจนจีมินตกใจ “อ๊า~ น้องสะใภ้น่ารักจริงๆด้วย เหมือนที่ยุนกิบอกไว้เลย~”
ห้ะ น้องสะใภ้อะไร!?
จีมินทำหน้างงพร้อมกันหันไปมองรุ่นพี่ของตัวเองสลับกับพี่สาวเจ้าตัว
“พะ..พี่ยุนอา!!” ยุนกิพูดพร้อมกับส่ายหน้าไปมาเบาๆ
“อะ..อ้าว นี่ยังไม่ได้เป็นแฟนกันหรอ?” หญิงสาวทำหน้างง “ก็ยุนกิบอกว่าชอบจีมินไม่ใช่หรอ?”
“พี่!!” <<ยุนกิ
“อะ..อะไรนะ!” <<จีมิน
ทั้งสองคนมองมาที่ผู้หญิงคนเดียวในห้อง คนนึงก็มองด้วยความตกใจ คนนึงก็มองด้วยความ..ยังไงดีละ เอาเป็นว่าน่ากลัว TT
“เวรกรรม..” ยุนอาก็นึกว่าจะเป็นแฟนกันแล้วนี่นา
~ตือดือดึ๊ง ตือดือดือดึง ตึงตึง~
พอดีกับเสียงจากโทรศัพท์มาช่วยชีวิตไว้..
“แม่โทรมาอ่ะ เดี๋ยวพี่ไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกดีกว่าเนาะ ^^” ว่าจบก็รีบออกไปจากห้องทันที
หลังจากที่พี่สาวของยุนกิออกไปจากห้อง จีมินก็หันมามองรุ่นพี่ของตัวเอง
หมายความว่าไงที่บอกว่ายุนกิชอบจีมิน..
“อะ..เอ่อ คือ..”
“....” ตอนนี้จีมินลุ้นจนใจเต้นแรงมากเลย ฮืออออ
“คือ..” ยุนกิที่ตอนนี้กำลังอยู่ไม่สุขเพราะกำลังหาข้อแก้ตัว (แถ) แต่คิดไม่ออกจึงได้คิดว่าจะตัดใจบอกไปตามตรงเลย
แมนๆตรงๆเลยก็ได้วะ!!
“เออ! กูชอบมึงอ่ะจีมิน!”
จบคำพูดของคนตรงหน้า หัวใจจีมินที่เต้นแรงอยู่แล้วกลับแรงมากกว่าเดิมราวกับจะออกมาจากอก
จริงดิ่!! จริงหรอวะ!! โฮรรรรร
“นะ..นานแค่ไหนแล้ว?” แต่บอกก่อนเลยถึงแม้จะดีใจแทบร้องไห้แค่ไหน เขาก็จะไม่แสดงอาการอะไรออกไปทั้งนั้น แก้แค้นที่อิพี่มันปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวมาตั้งหนึ่งอาทิตย์!
แต่รู้สึกเสียงสั่นมือสั่นไปหมดเลยฮือออ แม่ ช่วยจีมด้วยยย T//////T
“ก็.. ประมาณอาทิตย์กว่าๆ..มั้ง” ยุนกิเกาหลังคอตัวเองด้วยความประหม่า “คือกูแค่ชอบมึงนะ มึงไม่ต้องอึดอัด แล้วก็ตอนนี้มึงไม่ต้องชอบกูก็ได้ เพราะเดี๋ยวกูจะจีบมึง”
หูยยย คนตรงไปอีกกก ตรงไปจีมินก็ต้านทานไม่ไหวดิ่~
จะว่าไปก็อยากรู้แฮะว่ารุ่นพี่ตรงหน้าจะจีบเขายังไง เห็นวันๆเอาแต่แกล้ง -*-
“แต่ผมมีคนที่รักแล้ว..” พูดออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ใคร.. แทฮยองหรอ?”
พ่อมึงสิ่!
“มันมีผัวแล้ว!” ฉลาดไปหมดทุกเรื่อง ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องโง่ไม่เข้าท่าด้วยวะคนเรา หมดอารมณ์เขินเลยกู
“อ่าว แล้วใครวะ..” หน้าของยุนกิดูสลดลงไปทันตาจนทำให้เขาเริ่มรู้สึกผิด และหลบสายตามองมือตัวเองที่อยู่บนตัก
“ผมก็ไม่รู้นะเว้ยว่าทำไมถึงรักเขา รู้แค่ตอนเจอเขาวันแรกเขาเป็นคนที่ช่วยผมไว้ ให้ผมมีหอพักอยู่จนถึงทุกวันนี้”
“...”
“เขาแกล้งผมทุกวันแต่ก็ห่วงใยผมที่สุด จนผมเริ่มหวั่นไหวแล้วก็รักเขาโดยไม่รู้ตัว”“...”
“หนึ่งอาทิตย์ที่เขามักจะไม่ค่อยอยู่ ผมก็โคตรเฟล เฟลจนกินไม่ค่อยได้ นอนไม่ค่อยหลับจนเป็นไข้เข้าโรงบาล”
“...”
“จนวันนี้ที่เขามาบอกว่าชอบผม ถึงมันจะไม่ได้เป็นความตั้งใจ แต่ผมก็โคตรดีใจเลย” จีมินเงยหน้าขึ้นมามองรุ่นพี่ของตัวเองก่อนจะพูดต่อออกไป “ผมรักพี่นะ พี่ยุนกิ”
จบคำที่จีมินพูด ยุนกิก็กอดคนตัวเล็กทันที ถึงจะเคยล้อว่ามันอ้วน แต่พอมากอดจริงๆจีมินกลับตัวเล็กมากจนไม่กล้ากอดแรงๆ
“ขอบคุณนะ ขอบคุณที่รักกู”
“ทำไมต้องขอบคุณด้วยเล่า! ..แต่ก็ขอบคุณนะที่พี่ชอบผม”
ทั้งสองคนกอดกันอยู่สักพักใหญ่เพื่อซึมซับความอบอุ่นของกันและกันเงียบๆ ก่อนจะผละออกมา
“กูแสดงความรู้สึกไม่ค่อยเก่ง” ยุนกิพูดขึ้นมา
“ผมรู้ ผมก็เหมือนกัน” ว่าจบจีมินก็ยิ้มให้
“แต่กูชอบมึงจริงๆว่ะจีมิน”
ทั้งสองคนสบตากันสักพัก ก่อนที่ระยะห่างของใบหน้าพวกเขาจะลดลงจนไม่เหลือ ปากอิ่มของคนตัวขาวและปากซีดเพราะฤทธิ์ไข้ของคนบนเตียงประกบกันแนบแน่น ต่างคนต่างหลับตาแล้วปล่อยให้ความรู้สึกพาไป ปากของทั้งคู่ประกบกันเฉยๆอยู่สักพักก่อนที่คนตัวขาวจะกัดริมฝีปากของร่างเล็กเบาๆเพื่อให้อ้าปากก่อนที่จะส่งลิ้นร้อนเข้าไปในอวัยวะเดียวกันของคนตรงข้าม ลิ้นทั้งสองดูดดึงกันอยู่สักพักจนจีมินเริ่มเคลิ้มและนำมือของตัวเองไปคล้องคอพี่ไว้ ยุนกิจึงเอื้มไปกอดเอวคนบนเตียงหวังว่าจะดึงมาหาตัวเองเพื่อลดระยะห่างของตัวทั้งสองคนในขณะที่ปากและลิ้นยังคงไม่ห่างจากกัน
แต่..
ฟึ่บ!
“ยุนกิ! แม่บอ--”
พลั่ก! จ๊วบ!
เนื่องจากมีสมาชิกใหม่เข้ามา ทำให้พวกเขาคนตกใจผละออกจากกันทั้งที่ยังคงจูบกันอยู่ จนเกิดเสียงน่าอายออกมา
และเมื่อจีมินที่เห็นว่าใครเป็นคนเข้ามาก็อาย ล้มลงนอนและคลุมโปงทันที..
ในส่วนของยุนกืที่โดนขัดจังหวะก็มองพี่สาวด้วยความหงุดหงิดเล็กๆ
“พะ..พี่ขอโทษที่ขัดจังหวะ พี่ไม่รู้ งั้น.. พี่ไปก่อนดีกว่าเนอะ” ยุนอายิ้มแหยๆพร้อมกับออกจากห้องไปเงียบๆ เหมือนทำอะไรก็ผิดเลยเราเนี่ย TT
“งื้อ~” เมื่อรู้ว่าพี่สาวของคนตัวขาวออกไปแล้วจีมินที่หน้าแดงเป็นลูกตำลึงก็ผละออกจากผ้าห่มพร้อมส่งเสียงออกมาเพราะเขินอาย
“โอ๋ๆ ไม่เอาไม่ร้องดิ่” ยุนกิพูดพร้อมกับเอามือไปลูบผมกันที่นอนอยู่แล้วหัวเราะเบาๆ
“พี่ยุนกิ!!” จีมินโคตรอายเลยจริงๆนะเว้ย ไม่คิดว่าจะอายได้มากขนาดนี้ในชีวิต TT
“อายทำไมเราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่”
“ก็รู้ แต่อายอ่ะ” ร่างเล็กตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“แต่ว่า พูดถึงเรื่องเมื้อกี้..” ยุนกิพูดเกริ่นออกมาก่อนที่จะหยุดไปซักพักหนึ่งทำให้จีมินสงสัย “เราจูบกันแสดงว่าเป็นแฟนกันแล้วเนอะ^^”
จูบกันแล้วแสดงว่าเป็นแฟนกัน.. ตรรกะไหนของพี่วะเนี่ย!
แต่ก็..
“อืม -//////-”
“ไหนมากอดอีกทีดิ้” ยุนกิอ้าแขนกว้างเพื่อรออีกคนลุกขึ้นมารับอ้อมกอดด้วยรอยยิ้มที่สดใส
“อื้อ”
จีมินจึงลุกขึ้นนั่งพร้อมกับเข้าไปกอดอีกคนด้วยหัวใจที่เต้นรัวทันที
..จากตอนแรกที่ได้แค่คิดว่า ‘คงดีถ้าเธอคิดเหมือนกัน’ มันไม่ได้เป็นแค่ความคิดแล้วนะ..
จีมินดีใจที่สุดเลย~
__________________________
#HappyJMday!!!!
เซย์ไฮอาร์มี่ทุกคนที่เข้ามาอ่าน ซึ่งจะมีรึเปล่าก็ไม่รู้ TT
เนื่องในวันเกิดยัยก้อนเมนเราในบังทัน
บวกกับไปฟังเพลงนึงแล้วสปาร์กเข้าพล็อตฟิคเด้งขึ้นมา
และอีกอย่าง พีตัมนุนมุลมันดีงามมากเลยค่ะสังคมมมมมม
ผู้ชายก็ดี แถมมีโมเม้นกันอีกต่างหาก ร้องไห้ด้วยความปริ่มอยู่หน้าจอเลย
นั่นแหล่ะค่ะ ทุกๆอย่างผสมรวมกันจึงเกิดเป็นผลงานนี้แหล่ะค่ะทุกคน
มีความเว่นเว้อเพ้อเจ้อมาก แต่อยากจะบอกว่าร้าก~ #ผิดๆ
เอาเป็นว่าไรท์คนนี้ mintspirit07 ขอฝากฝังฟิคบังทันเรื่องแรกของเราไว้ในความทรงจำด้วยนะคะ~
ถ้ามีอารมณ์จะมาแต่งเรื่องใหม่ ฮ่าาาาาา
เม้นเป็นให้เราได้นะ ติหรือชมได้หมดเลย
"เราชอบเม้นแย่ๆ มากกว่าโนคอมเม้นนะ" (by cypher pt.4)
ไม่ใช่ว่าคราวนี้มาเม้นแย่หมดเลยทำไงเนี่ย 55555555 ล้อเล่นค่ะ ><
สุดท้ายนี้หากมีอันใดผิดพลาดขออภัยมาณที่นี้ด้วยนะคะ ไม่ได้แต่งมาครึ่งปีแล้วจึงขัดๆนิดหน่อย ขอโทษน้า
ปล.พูดคุยกับไรท์ได้ที่ทวิตเตอร์ @mintspirit07 นะคะ
บายยยย จุ๊ป~ <3
สกรีมได้ที่แท็ก #ficOSPR นะคะ