วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559

[OS] (yoonmin) SAY LOVE IN MY HEART [Jimin Birthday 2016]








TITLE : SAY LOVE IN MY HEART 
CAST : BTS 
COUPLE : YOONMIN 
FOR : JIMIN BIRTHDAY 2016 
RATE : PG 
WORDS : 6,261


SAY LOVE IN MY HEART


            โอ้ย!!! หิวข้าวโว้ย!!” 
            “บ่นอย่างงี้มาทำเองเลยมา!!” 
            อะไรคือการที่วันอาทิตย์โรงเรียนหยุดทั้งทีแทนที่จะได้นอนตื่นสายแต่กลับต้องมาตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงเพื่อต้องมาทำอาหารให้กับคนที่เป็นทั้งรูมเมทและรุ่นพี่ที่โรงเรียนด้วยเหตุผลที่ว่า.. เจ้าตัวหิวแต่ทำอาหารไม่เป็น!! 
            คืออะร๊าย!!!!!!! 
            อย่าแปลกใจว่าทั้งๆที่จีมินบอกว่าคนที่บ่นอยู่นั้นเป็นรุ่นพี่แล้วทำไมตะโกนแหกปากตอบไปจนคนสาปแช่งกันทั้งหอขนาดนั้น ไม่ให้ความเคารพหน่อยหรอ เขาบอกได้เลยว่า ก่อนหน้านี้เขาเองก็ให้ความเคารพรุ่นพี่คนนี้ดีอยู่หรอก เพราะพี่ยุนกิน่ะ ทั้งเรียนเก่ง เล่นบาสเก่ง แถมเล่นเปียโนเก่งอีกต่างหาก แถมตอนที่ย้ายเข้ามาเรียนมัธยมปลายที่โซลนี้ เขามาช้าทำให้ไม่มีหอเหลือแล้วทั้งนอกและในโรงเรียน (ไม่คาดคิดว่าเรื่องแบบนี้จะมีเกิดขึ้นด้วยในสังคม ตอนนั้นนี่อึ้งไป 5.9376251 วินาทีกันเลยทีเดียว) แต่ด้วยความที่บ้านของเขาอยู่ตั้งปูซานโน้นแหน่ะ จะซื้อคอนโดก็คงจะแพงไปหน่อยบ้านไม่ได้รวยขนาดนั้น ก็เลยคิดหาทางออกไม่ได้ ก็ได้พี่คนนี้แหล่ะยื่นข้อเสนอให้เป็นรูมเมทกันแต่เขาต้องเป็นคนจ่ายค่าหอ ถึงจะเหมือนว่าจะโดนเอาเปรียบไปหน่อยแต่ก็ดีกว่าไม่มีที่อยู่จึงตกลงไป 
            แต่!!!!!!!!! 
            ใครจะไปคิดว่าอิพี่มันจะให้เขาทำให้หมดทุกอย่างขนาดนี้กันเล่า! เหนื่อยสายตัวแทบขาดทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะเรียนหนักแต่เป็นเพราะรุ่นพี่คนนี้คนเดียวเลย ไม่รู้ว่าก่อนเขาเข้ามาอยู่นี่อยู่ตัวคนเดียวมาได้ยังไง อยากจะถามแต่ก็กลัวจะโดนตบกระโหลกกลับมาให้ปวดหัวเล่นๆก็เลยไม่ได้ถาม 
            อันที่จริงทุกวันนี้ก็ไม่อยากจะทำให้มัน (จะเรียกอย่างงี้ใครจะทำไม) นักหรอก ให้แม่งทำเองซะมั่ง.. 
            แต่กูอยากให้มึงทำให้อ่ะว่าจบก็เดินเข้ามาดมกลิ่นเข้าต้มกุ้งที่ทำ มือก็พลางลูบหัวจีมินไปด้วย อื้อหืม~ หอมมาก จะรอนะหมูน้อย~” 
            ..แต่ก็ใจอ่อนให้มันทุกที 
            ทีหลังอ่ะซื้อพวกโจ๊กสำเร็จรูปมาไว้ที่ห้องมั่งดิ่พี่ ถ้าผมไม่อยู่ทำไงเนี่ยเขาพูดพร้อมกับนำข้ามต้มสองชาม (ไหนๆก็ตื่นมาทำแล้วก็กินมั่งคงไม่แปลกเนาะ~) มาวางบนโต๊ะญี่ปุ่นที่อีกคนตั้งรอไว้แล้วพร้อมกับนั่งลงตรงฝั่งข้างๆ 
            ก็ไม่กินไง 
            “จะบ้าหรอพี่ เป็นโรคกระเพาะกินอาหารไม่ตรงเวลาก็อาการกำเริบอีกดิ่ 
            “เป็นห่วงกูหรอ?” เจ้าตัวพูดพร้อมกับยิ้มหน้าอาแปะ 
            ..เออ เป็นห่วง 
            คนเดือดร้อนคือผมปะ?” 
            แต่ก็เลือกที่จะไม่ตอบไปตามที่คิด ด้วยเหตุผลอะไร..ไม่บอกหรอก :p 
            เอ้อ ไม่เคยเป็นห่วงกูหรอกมึงอ่ะ!” 
            “จะกินป่ะข้าวต้มอ่ะ เห็นบ่นงี้ไม่หิวแล้วใช่ปะจะได้เอาไปทิ้ง 
            “เฮ้ย! กินดิ่ จีมินนี่อุตส่าตื่นเช้าขึ้นมาทำให้นี่~” รีบพูดแล้วตักข้าวต้นเข้าปากทันที แล้วมึงอ่ะไม่กินหรอ?” 
            “ใครบอกพี่ว่าผมจะไม่กิน 
            “โอเคจบ!” 
            จบคำพูดทั้งสองคนก็นั่งกินข้าวต้มด้วยเสียงหัวเราะ


SAY LOVE IN MY HEART


            “นี่ๆ จีมินเสียงเรียกพร้อมแรงสะกิดที่ไหล่ทำให้เขาที่กำลังจะลงนอนเงยหน้าขึ้นมาหา 
            ห้ะ? ว่าไงแทแท 
            คิมแทฮยอง หรือ แทแทที่เขาเรียก เพื่อนสนิทที่เจอกันเพราะนั่งข้างกันตอนเข้าเรียนครั้งแรก แล้วบังเอิญคุยกันถูกคอรวมทั้งเป็นเด็กใหม่ทั้งคู่ ก็เลยอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่วันแรกจนตอนนี้ไฮสคูลปีสองแล้ว ถ้าถามว่าพวกเขาไม่มีเพื่อนคนอื่นคบหรอ ทำไมอยู่กันแค่สองคน? ไม่ใช่อย่างนั้นนะ เราก็เพื่อนเยอะอยู่แหล่ะ โดยเฉพาะแทฮยอง เพราะรายนั้นเป็นคนร่าเริง (มากเกิ๊นนนนนนน) เจอใครก็เข้าไปทักหมด ในส่วนของจีมินเองก็เป็นคนร่าเริงแต่ไม่ถึงขั้นแทฮยองไง บวกกับนิสัยที่ค่อนข้างขี้อายมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยเพื่อนน้อยกว่าแทฮยองนิดหน่อย ด้วยเหตุผลแค่นั้นจริงๆ ไม่ใช่เพราะว่าแทฮยองโคตรหล่อหรอก 
            อ้อ เขาบอกรึยังนะว่าอยู่ที่โรงเรียนเขาใส่แว่นน่ะ แถมหน้าซีดมาก คนอื่นๆก็เลยไม่รู้หรอกว่าจริงๆแล้วเขาน่ะน่ารักแค่ไหน~ (มีความมั่นหน้า) 
            ไปห้างกัน~” ตากลมของแทฮยองเมื่อพูดดูมีประกายขึ้นมา 
            อะไรของมันวะ 
            ไปทำไมวะ ขี้เกียจ อยากนอนอยู่บ้านง่ะว่าแล้วก็บิดขี้เกียจแล้วเอียงหัวนอนบนโต๊ะเรียน (คาบสุดท้ายหมดเวลาแล้วแต่อยากนอนก่อนอ่ะ มีไรมั้ย?) 
            ก็ไปเดินเล่นด้วย เล่นเกมด้วย..แทฮยองทำหน้าครุ่นคิดอยู่สุกพักก็โพล่งออกมา อ้อ! แล้วก็ไปซื้อของทำงานด้วยไง ส่งพรุ่งนี้ด้วยนี่นา กูยังทำไมเสร็จเลยอ่ะ 
            “งานไรวะส่งพรุ่งนี้?” ทำไมจำไม่เห็นได้เลย.. 
            งานเจ๊ซอนมีอ่ะ ที่ทำใส่ฟิวเจอร์บอร์ดไง.. อย่าบอกนะว่ามึงลืมแทฮยองพูดพร้อมกับทำหน้าว่า ถ้ามึงลืมนี่ตายหยังเขียดแน่ๆ 
            และกูนี่คงตายหยังเขียดแน่ๆ 
            ก็กูลืมอ่ะดิ่ เวรเอ้ย!!!!!” 
เจ๊ซอนมีคือครูสอนวิชาการงานที่โหดสัสจนครูห้องปกครองยังยอมแพ้ ถ้าพี่แกสั่งงานแล้วส่งไม่ตรงเวลา หรือ งานไม่เรียบร้อย เตรียมติด ร. ทันที ได้ยินมั้ย ติด ร. ทันที!!!! ถ้าแม่รู้นี่เอาจีมินตายแน่เลยฮือออ ทุกวันนี้คะแนนสอบยิ่งไม่ค่อยจะดีอยู่ ว่าแล้วก็รีบลุกรีบเก็บของใส่กระเป๋าทันที 
จะรีบไปไหนวะมึง?” แทฮยองที่เห็นเพื่อนสนิทรีบเร่งเก็บของใส่กระเป๋าจึงถาม 
ก็ไปซื้อของดิ่วะ มึงจะรอให้เจ๊ซอนมีมาเอาตัวรอเรือมาติดหัวกูรึไง ป่ะ!” จบคำพูดปุ๊ปก็ลากเพื่อนสนิทไปด้วยทันที 
เฮ้ยช้าๆก็ได้มั้ง..!” 
. 
. 
จะทำทันหรอวะ ทำฟิวเจอร์บอร์ดเป็นเล่มๆเลยนะเว้ยในขณะที่พวกเขาทั้งสองคนกำลังเดินหาวัสดุในการทำงานแทฮยองก็ถามขึ้นมา 
ไม่ทันก็ต้องทันแหล่ะวะก็แค่คืนนี้ไม่ต้องนอน แค่นั้นเอ๊งงงงงง TT TT 
แล้วหาข้อมูลไว้แล้วอ่อ?” 
ข้อมูลที่ว่าก็คือเรื่องเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร ค้นหาข้อมูล และความรู้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตน่ะ 
หาไว้นานแล้ว แต่แค่ลืมทำ 
เออ ก็ดีไป งั้น..แทฮยองที่เหมือนจะพูดต่อแต่แล้วก็หยุดไปทำให้เขาที่ก้มเลือกกระดาษสีอยู่ต้องหันไปมอง กูไปก่อนนะ!” 
พูดจบก็วิ่งโร่เข้าไปหาแฟนเด็กของตัวเองทันทีไม่รอให้จีมินบ่น 
อิเพื่อนเฬววววววววว!!!!! 
ถึงว่าล่ะตอนชวนมาห้างนี่ตาเป็นประกายเชียว ที่แท้ชวนมาหาผัว -*- แต่ก็ดีไปที่ทำให้เขานึกได้ว่ามีงานล่ะนะ ช่างมัน 
ขาเดินเลือกหาวัสดุไปอีกสักพัก พอได้ครบก็จึงไปจ่ายเงิน ซึ่ง! โคตรพะรุงพะรังเลยว่ะ - - 
เดินแบกของต่างๆอย่างทุลักทุเลไปได้สักพักก็รู้สึกว่ามีอีกมือหนึ่งมาช่วยจับของ.. 
            เดี๋ยวช่วย 
เสียงเมาๆวิธีการพูดเมาๆนี่มันพี่ยุนกิ? ว่าแล้วก็ชะเง้อหน้าออกจากของพะรุงพะรังต่างๆออกไปมองหน้าคนที่บอกจะช่วย ..พี่ยุนกิจริงๆนี่หว่า! มาได้ไงวะ 
เดี๋ยวช่วยพูดซ้ำอีกรอบก่อนจะทำท่า..เขาเรียกว่าไงอ่ะ อ้าแขนรอรับกระดาษ อืม อะไรประมาณนั้น 
และด้วยความไม่อยากขัดความหวังดีของคุณรุ่นพี่จึงส่งของให้เจ้าตัวถือ..เกือบทั้งหมด จีมินไม่ได้ขี้เกียจถือเลยนะจริงๆ -.,- 
แล้วนี่พี่มาได้ไงอ่ะระหว่างที่รอแคชเชียร์คิดเงินก็ถามสิ่งที่สงสัย 
กับเพื่อนแล้วพี่ยุนกิก็ตอบมาสั้นๆ สั้นจริงๆ - - 
อ้าว แล้วเพื่อนอ่ะ 
แยกออกมาแล้วก็ตอบมาสั้นๆพร้อมกับมองไปที่ของที่ซื้อมา 
หมายความว่าเพื่อนแยกออกหรือพี่แยกออก?” นี่งงนะเนี่ย งงจริงๆ 
..อืม 
ห้ะ! 
WHAT THE F*CKKKKK!!!!!!!!!!!!!! 
อิฟหกด่าสวลำบพยะนัรีปแมอทื!! ก็รู้นะว่าอยู่ข้างนอกต้องคีพลุคมินยุนกิสุดเท่ขวัญใจประชาชน แต่ก็ไม่ต้องขนาดนี้มั๊ยยย นี่รูมเมทรึเปล่า รู้กันหมดไส้หมดพุงแล้วจะต้องคีพลุคอะไรหนักหนา! โอ้ยหมันไส้ -^- 
พอแคชเชียร์คิดเงินเสร็จก็รีบจ่ายเงินแล้วหยิบของบางส่วนมาถือแล้วเดินออกไปทันที ส่วนอีกเกือบทั้งหมดก็ให้พี่มันถือไง จีมินไม่ลืมหรอกนะที่พี่มันบอกจะช่วยน่ะ แล้วก็แค้นมากด้วย คอยดูกลับห้องไปกูจะไม่คุยกับมึง! 
. 
. 
นี่ซื้อมาทำอะไรวะ 
... 
เยอะแยะชิบหาย 
... 
ถือแม่งก็หนัก 
... 
มินยุนกิคนพูดมากกลับมาแล้วครับสังคม นี่ก็สงสัยว่าประตูห้องมันมีมนต์อะไรร่ายไว้รึเปล่า หลังจากที่เดินเข้าหอมาเงียบๆไม่พูดอะไรสักคำพอผ่านประตูห้องมาเท่านั้นแหล่ะ.. บ่นเป็นต่อยหอยเลยสัส! 
นี่จีมิน.. มึงจะไม่คุยกับกูหรอคนเป็นพี่ถาม 
...เออ กูจะไม่คุยกับมึง จำวรั้ย! 
จีมินนี่ครับ จะไม่คุยกับพี่จริงๆหรอ?” 
...อะ.. เออไง!! *หลบตา 
จีมิน..คนพี่เห็นว่าน้องหลบตาก็นำมือจับแก้มจีมินทั้งสองข้างให้หันมาสบตากัน 
อิเหี้ยย ทำไรมึงเนี่ย!! 
ถึงในใจด่าไปอย่างนั้น แต่พอความจริงก็ได้แค่ยืนนิ่ง ตารีเล็กของตัวเองเปิกกว้างด้วยความตกใจ ..ระคนหวั่นไหว 
ใบหน้าเรียวขาวที่มองเผินๆแล้วดูนิ่งเฉย แต่ทว่าตาเล็กกำลังมองเขาอยู่ด้วยสายตาอบอุ่น บวกกับมือที่กำลังจับแก้มของเขาทำให้ใบหน้าเราห่างกันไม่ถึงคีบ 
..หายโกรธพี่นะครับน้ำเสียงนุ่มที่พูดออกมาจากปากคนตรงหน้านี่มัน.. กูตาย กูตายแน่ๆ ฮือออออ 
อะ..เออ ออกไปได้แล้ว..โอ้ยย ทำไมพูดออกไปเสียงเบาขนาดนี้! แล้วไอ่อาการร้อนที่หน้ามันคืออะไร๊!! 
อิหัวใจมึงหยุดเต้นแรงเดี๋ยวนี้นะ!!!! 
แล้วพี่ยุนกิปล่อยมือที่จับหน้าเขาอยู่ออก แล้วก็ยิ้ม 
มะ..มึงยิ้มอะร๊ายยยยยย!!!!!! 
ยิ้มไรพี่!?” ถามออกไปเสียงดังพร้อมกับอาการร้อนที่หน้าเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง 
...แต่คนถูกถามกลับไม่ตอบ แล้วทำเพียงแค่ยักไหล่แล้วก้มลงไปมองของที่พื้น สรุปซื้อมาทำไมเนี่ย?” 
....ไอ้.... อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง มึงบอกกูมาเดี๋ยวเน้!!!!!! 


00 : 10 น. 
มึง กูง่วง คนตัวขาวที่ช่วยเขานั่นทำงานอยู่บ่นขึ้นมา 
ง่วงก็ไปนอนดิ่พี่พร้อมกับที่มือของเขาชี้ไปที่เตียง งานผม เดี๋ยวที่เหลือผมทำเอง 
ไม่เอา กูจะช่วยมึงก่อนว่าจบก็สะบัดหัวไล่ความง่วงไปอีกรอบ 
เอ้า! ใครใช้ให้ช่วยครับ? 
ไปนอนเหอะเห็นแล้วสงสารว่ะ 
คำหลังพูดออกไปไม่ได้ เกรงว่าเดี๋ยวจะโดนตบกะโหลกพัง -- 
...จบคำของจีมินยุนกิก็เงยหน้าขึ้นมาสักพัก อืม 
แล้วลงนอนที่ตักนุ่มของคนเด็กกว่าแล้วหลับตาพริ้มทันที 
คืออะไร๊!! 
พี่ ผมหมายถึงไปนอนที่เตียง.. 
ไม่เอาอ่ะ จะนอนตักจีมิน..เจ้าตัวพูดพร้อมกับลืมตาขึ้นมา ยิ้ม แล้วลูบหัวจีมิน สู้ๆนะครับ 
..จากนั้นก็หลับตาไปต่อ 
ตึกๆ ตักๆ ตึกๆ ตักๆ 
พัง พังแน่ๆ ตัวจีมินเนี่ยพังแน่ๆ ฮือออออ แม่ครับจีมินโดนคนที่แอบชอบแอทแทคใส่แรงมาก จีมินต้องตายแน่ๆเลยแม่ ตัวจีมินร้อนไปหมดเลย โดยเฉพาะที่หน้าอ่ะแม่ โฮรรรรรรรรรรรรรรรรร 
ตอนแรกก็โคตรสงสัยว่าทำไมร้อยวันพันปีอิพี่มันไม่เคยดีต่อใจขนาดนี้ แล้ววันนี้มันเป็นอะไร แอทแทคกูจังเลย แต่แม่ง! ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกแล้ววว พี่มันเอาสมองจีมินไปแล้วด้วยครับทุกคน 
หลังจากนั่งเขิน เวิ่นเว้อ เพ้อเจ้อไปได้สักพักก็ตบหน้าตัวเองเบาๆเรียกสติให้ตัวเองกลับมาโฟกัสกับงานที่ต้องทำ แต่.. 
โอ้ยเขินนนน ฮือออออออ TT//////TT


[ Yoongi’s Part ] 
6 : 30 น. 
เช้าแล้วหรอวะ? 
แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาที่ดวงตาของเขาที่หลับอยู่ทำให้ต้องจำใจตื่นขึ้นมา..ถึงแม้จะไม่อยากตื่นแค่ไหนก็เถอะ 
หลังจากลืมตาขึ้นมาช้าสิ่งแรกที่เห็นคือหน้ากลมของเจ้าของตักที่เขากำลังนอนหลับตาพริ้มพิงโซฟาด้านหลังอยู่ 
..อ่า นั่งทำงานทั้งคืนเลยสิ่นะ.. 
คิดได้ดังนั้นจึงลุกขึ้นนั่ง กวาดสายตาไปทั่วก็เห็นบรรดาเศษกระดาษ ฟิวเจอร์ปอร์ดที่ถูกตัดแล้วระเกะระกะทั่วห้องไปหมด 
..เก็บให้ก็ได้ 
ว่าแล้วก็เก็บเศษขยะต่างๆลงเข้าถุงดำกวาดพื้นให้จนสะอาด ส่วนงานที่เสร็จเป็นเล่มแล้วก็เอาวางไว้บนโซฟา พอคิดว่าเสร็จหมดแล้วจึงเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดไปเก็บพร้อมกับวางถุงดำไว้หน้าประตูกันลืมเอาไปทิ้ง 
..ต่อไป ไอ่อ้วน 
จะอุ้มมันไปนอนดีๆดีมั้ยวะ 
คิดไปคิดมาอยู่สองสามนาทีก็ตัดสินใจได้ 
เอาวะ! ถึงตัวมันจะหนักแต่ก็คงไม่เท่าไหร่หรอก 
คิดในใจเสร็จก็เดินเข้าไปหาร่างที่นอนอยู่แล้วช้อนแขนเข้าไปใต้ขาและหัวไหล่ของเจ้าตัวอ้วนแล้วอุ้มยืนเต็มความสูง.. 
อั่ก! หนักชิบหาย 
ไม่รอให้เสียเวลาก็อุ้มคนในอ้อมแขนไปที่เตียงนอนแล้วค่อยๆวางทันที 
ชาเลยแขนกู - - 
แต่แล้วอยู่ดีก็คิดขึ้นมาได้.. ทำไมกูไม่อุ้มมันไปนอนแค่โซฟาพอวะ!? นี่มึงโง่หรือมึงโง่เนี่ยมินยุนกิ!! 
หงุดหงินงุ่นง่านกับความโง่ของตัวเองไปก็หันไปดูนาฬิกาพบว่าเจ็ดโมงแล้ว.. ไปอาบน้ำก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยปลุกไอ่หมูตอนโมงครึ่งแล้วกัน โรงเรียนเข้าตั้งแปดโมงสิบห้า 
[ END Yoongi’s Part ]


หืม? กลิ่นไรอ่ะ? 
เพราะได้กลิ่นอาหารทำให้เขาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความแปลกใจ ใครทำอะไรวะ?’ ด้วยความสงสัยจึงลุกออกจากเตียง.. เดี๋ยวนะ เตียง? เท่าที่จำได้คือพอทำงานเสร็จตีห้าก็นอนพิงโซฟานี่หว่า และมาอยู่บนเตียงได้ไงวะ? 
เออ ช่างมันก่อน ตอนนี้สงสัยเรื่องของกินมากกว่า 
เดินออกมาก็เจอโต๊ะญี่ปุ่นถูกตั้งไว้กลางห้องพร้อมกับปาท่องโก๋และน้ำนม..หรือเต้าหู้? อะไรสักอย่างนี่แหล่ะอยู่บนโต๊ะ มองหาตัวคนจัดการก็เจอพี่ยุนกิแต่งชุดนักเรียนเรียบร้อยกำลังถือชามโจ๊กมาวางบนโต๊ะ 
อ้าวตื่นแล้วหรอ กำลังไปปลุกเลย ไปล้างหน้าแปรงฟันไป กูซื้อข้าวเช้ามาให้จะได้มากิน 
เห้ย!!!! เมื่อวานว่าแปลกแล้ว วันนี้แปลกกว่าอีก!!! 
ว่าแล้วก็เดินไปหาคนตัวสูงกว่า ( 1 cm. ) แล้วเอามืออังหน้าผาก 
ตัวก็ไม่ร้อนนี่หว่า 
อะไรของมึงคนตัวขาวถามด้วยความสงสัย 
พี่แปลกๆ ร้อยวันพันล้านปีพี่ไม่เคยดีขนาดนี้.. 
...เกิดความเงียบพร้อมกับรังสีอมหิตแผ่ออกมา แล้วจะกินมั้ย?” 
กะ..กินคร้าบปล่อยมือออกมาจากหน้าผากคนตรงหน้า ทำท่าตะเบ๊ะรับทราบแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟันทันที 
น่ากลัวชิบหาย >< 
. 
. 
เสร็จแล้ววคร้าบบบหลังจากที่เขารีบล้างหน้าแปรงฟันสุดชีวิตเสร็จ เพื่อมากินอาหารเช้ากับพี่ชายตาตี่ (ที่เริ่มจะแปลกขึ้นทุกๆวัน) 
เออ มานั่งเร็วๆ รออยู่ 
เห็นมั๊ย แปลกจริงๆนะ! 
ว่าแต่พี่เก็บของให้ผมอ่อ?” ในขณะที่นั่งกินโจ๊กอยู่ร่างเล็กก็ถามขึ้นมาพร้อมกับกวาดสายตาไปรอบๆห้อง ซึ่งดูสะอ้าดสะอ้านต่างจากที่เขานั่งทำงานเมื่อคืนลิบลับ 
ไม่ใช่มึงก็กูแหละแล้วก็ตักโจ๊กเข้าปาก 
ขอบคุณ -*- 
แล้วทำไมผมไปนอนบนเตียงได้วะพี่?” 
ไม่ใช่มึงก็กูแหละแล้วก็ตักโจ๊กเข้าปาก 
เออ!! กูไม่ถามมึงแล้วบอกเลย! 
ยุนกิที่เห็นตัวเล็กทำหน้าตาง้ำงอก็หัวเราะออกมานิดหน่อยพร้อมกับมือที่ไปลูบผมจีมินด้วยความเอ็นดู 
ล้อเล่นน่า ขี้งอนจังนะเราอ่ะว่าแล้วก็ละมือที่ลูบผมน้องมาประคองหน้าตัวเอง พี่อุ้มเราไปเองแหละ ^^” 
อุ้ม? อิพี่เนี่ยนะอุ้มเขา!? 
บะ..บ้าน่า พี่เนี่ –“ 
ก๊อกๆ ก๊อกๆ 
ก่อนที่จีมินจะพูดเสร็จก็มีเสียงเคาะประตูห้องออกมาก่อน.. 
เดี๋ยวกูไปเปิดเองพี่ยุนกิพูด พร้อมกับเดินไปเปิดประตูห้อง 
เมื่อเปิดประตูออกมาก็เป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวย ตากลมโตดูดึงดูด และริมฝีปากเป็นกระจับ ที่จีมินบอกได้ในฐานะผู้ชายคนนึงเลยว่า น่ารักมากกกกกกก! 
ด้วยความที่หอนี้เป็นหอนอก จึงไม่ได้แยกชายหญิง ผู้หญิงหรือผู้ชายจะขึ้นมาจึงไม่แปลก 
และทันทีที่หญิงสาวคนนั้นเห็นว่าใครที่เป็นคนออกมาเปิดประตูก็กระโดดกอดทันที 
ยุนกิ!!! คิดถึงจัง!! ><” 
เฮ้ย! ใครวะ!?


SAY LOVE IN MY HEART


จีมินวันนี้กูไม่นอนห้องนะ 
. 
จีมินเย็นนี้ไม่ต้องรอกินข้าวนะ กูคงกลับดึก 
            . 
            จีมินกูไปโรงเรียนก่อนนะ 
            ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ตั้งแต่ที่มีผู้หญิงคนนึงมากระโดดกอดรุ่นพี่เขาที่หน้าห้อง เจ้าตัวก็ไม่ค่อยได้กลับห้อง ไม่ค่อยได้กินข้าวพร้อมกัน ไม่ค่อยให้จีมินได้เห็นหน้าเลย วันหยุดที่ผ่านมาก็ไม่อยู่ห้อง ตอนเช้าก็ไปโรงเรียนก่อน เลิกเรียนบางวันก็กลับซะดึก และวันนี้ก็คงเช่นกัน.. 
            จีมินที่นั่งรอรุ่นพี่ตัวขาวของตัวเองตั้งแต่หกโมงเย็นด้วยเพราะคนตัวขาวบอกว่าจะกินข้าวด้วย แต่จนตอนนี้ใกล้สองทุ่มแล้วยังไม่กลับมาเลย ..กับข้าวเย็นชืดไปหมดแล้วมั้งไอ่พี่บ้าเอ้ย.. 
            คิดได้ดังนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาโทรไปถามสักหน่อย 
            <ฮัลโหล> รอไม่นานเจ้าตัวก็รับสาย 
            อยู่ไหนเนี่ยพี่?” 
            <ทำไมอ่ะ มึงมีไร?> เสียงรุ่นพี่ตัวขาวถามกลับมาด้วยความสงสัย 
            ลืมงั้นหรอ? 
            “เอ้า! ก็พี่บอกเองว่าจะกลับมากินข้าวที่หออ่ะ เลยถามว่าจะกินมั้ยเขาแกล้งตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่กึ่งโมโหนิดหน่อย 
            <เออว่ะ เห้ย! กูขอโทษจีมิน กูลืมอ่ะ> 
            ..ลืม.. 
คำที่พ่นออกมาทางโทรศัพท์ทำให้เขาที่น้อยใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งรู้สึกเหมือนมีมีดมากรีดที่หน้าอกฝั่งซ้าย 
เออ ดีละ ผมจะได้ไม่ต้องทำใหม่พูดออกไปด้วยกับน้ำเสียงที่ทำให้ดูปกติที่สุด ทั้งที่ตอนนี้เริ่มรู้สึกเหมือนมีก้อนบ่างอย่างมาจุกอยู่ที่คอ และน้ำใสๆมาขวางการมองเห็นไว้.. 
<นี่มึงกินแล้วใช่ปะ?> 
กินแล้วดิ่..ซะเมื่อไหร่ล่ะ 
<เออดีๆ วันนี้กูกลับช้านะไม่ต้องรอ> 
อืม.. 
<แค่นี้ใช่ปะ> 
ครับ.. 
<งั้นวางละนะ> เสียงปลายสายถามออกมา ซึ่งเขาก็อยากจะถามกลับเหมือนกัน.. 
..รั้งได้ด้วยหรอวะ 
อืม 
<แค่นี้ล่ะ ฝันดี..> เสียงอีกคนพูดจบแต่ยังไม่ทันได้วางสายก็มีเสียงผู้หญิงออกมา.. <ยุนกิเสร็จยาง~ นูน่าทำเค้กเสร็จแล้วนะ> 
.... 
<โอเคๆ ไปแล้ว--> 
ตื้ด! 
เสียงกดตัดสายจากทางอีกฝั่งดังขึ้นพร้อมกับน้ำตาของจีมินร่วงลงสู่พื้นห้อง ทั้งที่มือยังคงถือโทรศัพท์ค้างไว้ที่ใบหู 
ไอ้บ้าจีมิน อย่าร้องไห้ดิ่วะเสียงเตือนสติจากข้างในตัวเองที่เรียกร้องออกมาไม่ทำให้น้ำตาหยุดไหลได้เลย กลับกันยิ่งทำให้เขาร้องไห้หนักกว่าเดิม 
ฮึก..เสียงสะอื้นดังขึ้นในห้องที่เงียบสงัดและเด็กชายที่นั่งร้องไห้อยู่ที่พื้นพร้อมกับโต๊ะญี่ปุ่นที่มีกับข้าวหลายอย่างวางอยู่เต็มไปหมด มองยังไงก็น่าสมเพชเนอะ ขนาดเขายังสมเพชตัวเองเลย ถึงแม้ทั้งที่ในหัวบอกให้เลิกร้องไห้แค่ไหน แต่ในหัวใจกลับยิ่งเจ็บเหมือนโดนใครกรีดมีดซ้ำๆๆไม่รู้จบ นึกว่าอีกคนมีความสุขอยู่กับคนอื่นก็ยิ่งเจ็บ หวง แต่ถามตัวเองว่ามีสิทธิอะไร ก็ตอบไม่ได้ ก็ไม่ได้มีสิทธิอะไรนี่เนอะ เป็นแค่รูมเมทและรุ่นน้องธรรมดาๆ.. พอนึกมาถึงตรงนี้ก็ยิ่งเจ็บ ไม่เอาสิ่จีมินเลิกคิดซะเลิกคิด.. 
ฮึก อะ..คงเพราะร้องไห้หนักจึงทำให้อาการไข้ที่เป็นสะสมมาได้สองสามวันกำเริบ แรงบีบที่หนังศีรษะทำให้จีมินที่ร้องไห้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วร้องไห้หนักยิ่งไปอีก พร้อมกับเหงื่อที่ไหลซึมออกมาเพราะความปวดหัว มือทั้งสองข้างเอาขึ้นมากุมหัวเพราะความเจ็บปวด ก่อนที่จะหายไปพร้อมกับสติดับลง..


SAY LOVE IN MY HEART


[ YOONGI’s PART] 
เข้าห้องไปได้แล้ว~” 
เสียงหวานจากยุนอา พี่สาวแท้ๆคนสวยของเขาที่เพิ่งกลับจากอเมริกามาได้ไม่นานไล่เขาเข้าห้องของตัวเองไป แต่ว่า.. 
ถ้าผมเข้าไปแล้วก็ไม่ได้เจอพี่แล้วอ่ะดิ่ว่าแล้วก็ทำหน้าตาง้ำงอใส่ 
ติดพี่สาวมาตั้งแต่เด็กผิดรึไง? ยิ่งนานๆทีได้เจอกันก็ยิ่งคิดถึงดิ่ -^- 
พี่จะกลับไปหาที่บ้านบ้างไม่ได้รึไงเล่า~” ยุนอาพูดพร้อมกับยีผมน้องชายด้วยความเอ็นดู 
ที่บ้านก็หมายถึงบ้านเกิดที่แดกู เพราะครอบครัวอยู่ที่นั่น และพี่สาวก็บอกจะขับรถไปในวันพรุ่งนี้ ถึงได้อาลัยอาวรณ์อยู่นี่ไง 
เอาน่า เดี๋ยวก่อนกลับพี่จะมาแวะหาอีกทีโอเค๊?” พูดแล้วก็จับไหล่น้องชายให้หันเข้าประตูห้อง แล้วตอนนั้นก็พาน้องสะใภ้มาหาด้วยนะคะน้องรัก~” 
พี่ยุนอา!” 
ฮ่าๆ ไปแล้วนะ ดูแลตัวเองดีๆว่าจบก็เดินวิ่งไปทันทีก่อนจะถูกน้องชายทำร้ายร่างกาย รายนี้พี่สาวก็ไม่เว้นน่ะบอกเลย 
หลังจากพี่สาวไปแล้วยุนกิก็ยิ้มพร้อมกับไขประตูห้อง ที่พี่สาวเขาพูดถึงน้องสะใภ้นั่นก็หมายถึงจีมินน่ะ เขาที่เพิ่งรู้ตัวเองไม่นานมานี้ว่าที่ชอบแกล้งน้องหยอกน้องแต่ก็อยากอยู่ใกล้ๆน้องนั้นเป็นเพราะเขาชอบจีมิน แต่เขาก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะดูเหมือนน้องจะมองคนแค่เป็นพี่น้อง (พูดแล้วจุก TT) ประจวบเหมาะกับที่พี่สาวผู้มีประสบการณ์(?)กลับมาเยี่ยมพอดี ด้วยความคิดถึงและอยากได้คำปรึกษาถึงการทำให้น้องหวั่นไหวแบบเนียนๆ ทำให้หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาติดอยู่กับพี่สาวตลอด 
แกร๊ก 
ไขประตูเข้าไปก็พบกับความแปลกใจเพราะทั้งห้องยังคงสว่างโร่ ไม่ได้ถูกปิดไฟไว้ทั้งๆที่ก็เกือบจะห้าทุ่มแล้ว 
ยังไม่นอนหรอวะ? 
ปิดประตูห้องพร้อมกับเดินเข้าไปก็พบกับกับโต๊ะญี่ปุ่น่ทีมีอาหารเต็มโต๊ะไปหมด ซึ่ง..ทำไว้ทำไมว่ะ แต่ความสงสัยก็ถูกกลบไปเมื่อเห็นร่างของรุ่นน้องที่คุ้ยเคยนอนอยู่ข้างๆโต๊ะนั้นจึงเดินเข้าไปใกล้หวังจะแกล้งให้น้องตกใจตื่น แต่ก็ต้องตกใจเสียเองเมื่อพบว่าใบหน้ารุ่นน้องนั้นซีดเซียวราวกับไม่มีเลือด ริมฝีปากแห้งผาก เหงื่อที่ออกตามไรผม และ.. คราบน้ำตา 
จีมิน!!!” 
[END YOONGI’s PART]


SAY LOVE IN MY HEART


อืม..ร่างบางลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับปรับโฟกัสสายตาก่อนจะพบว่าที่ๆนอนอยู่นั้นไม่ใช่ห้องของตัวเอง กำแพงและเฟอร์นิเจอร์สีขาวล้วน กลิ่นยาอ่อนๆ เตียงที่นอนอยู่ถูกวางไว้กลางห้องบวกกับที่หลังมือของตนเองมีสายน้ำเกลือเจาะอยู่ 
โรงพยาบาล? แล้วเขามาอยู่ที่นี่ได้ไงกัน? 
สายตาเหลือบไปเห็นน้ำข้างเตียงก็ยกขึ้นมาดื่มเพราะความหิวกระหาย แล้วนึกย้อนกลับไปที่ความทรงจำสุดท้ายคือเขารอพี่ยุนกิทานข้าวแต่เจ้าตัวก็บอกว่าลืมหลังจากนั้นก็ร้องไห้ ปวดหัวแล้วหมดสติไป.. 
พี่ยุนกิหรอ? แล้วกับข้าวนั่น!? 
ไม่ทันที่จะได้คิดอะไรต่อประตูห้องก็ถูกเปิดออกมาพร้อมกับร่างของคนที่กำลังนึกถึงอยู่ 
..พี่ยุนกิ 
จีมินฟื้นแล้วหรอ!? ปวดหัวมั้ย?” ร่างขาวเมื่อเห็นรุ่นน้องตัวเองฟื้นแล้วก็รีบวิ่งเข้ามานั่งเก้าอี้ที่ข้างเตียง วางขนมของกินที่ซื้อมา (ให้ตัวเอง) จัดท่านั่งให้น้อง แล้วเอาหลังมือทาบหน้าผากคนป่วยเพื่อวัดไข้ 
ไม่เป็นไรแล้วพี่ ขอบคุณนะจีมินตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มตาหยีให้ ก็แอบดีใจที่พี่เขาเป็นห่วงนี่นา 
จริงๆนะ?” เมื่อน้องบอกไม่เป็นไรจึงนำมือเก็บมาไว้ที่ข้างเตียง มึงรู้ป่าวกูกับพ่อแม่มึงนี่โคตรเป็นห่วงเลยนะเว้ย เป็นไข้หนักขนาดนี้ทำไมไม่บอกกันเลยวะ 
....อยู่ให้บอกรึไงเล่า -^- 
ตอนกูเจอมึงที่บ้านแถมตัวโคตรร้อนจี๋เลยกูนี่ทำอะไรไม่ถูกเลย พอพามาโรงบาลหมอบอกว่ามึงเป็นไข้แถมไม่ค่อยได้พักผ่อนอีกยุนกิเงียบไปพักหนึ่ง ทำไมไม่ดูแลตัวเองเลยวะมึงอ่ะ!?” 
.... 
ทำให้คนเขาเป็นห่วงอยู่เรื่อย มึงรู้มั้ยมึงหลับไปกี่วัน.. สามวันเลยนะเว้ย! กูนี่แทบไปเรียนไม่เป็นสุขเลย.. 
ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วนี่นา 
            “ไม่ได้เป็นห่าไรล่ะ!? เออ แต่กูก็ขอโทษนะเว้ยที่ดูแลมึงไม่ดี กูเป็นพี่แท้ๆ 
            “พี่ยุนกิ..มือเล็กเอื้อมไปจับมือของรุ่นพี่ไว้ 
            เออ ว่าแต่วันนั้นทำกับข้าวไว้แล้วทำไมไม่บอกยุนกิที่อยู่ดีๆก็โพล่งขึ้นมาอีกทำให้เขาแอบตกใจนิดหน่อย 
            ห้ะ!?” วันไหนว่ะ 
            วันที่มึงสลบไปนั่นแหละอุ้ย อ่านใจออกหรือไร? 
            “ก็พี่บอกไม่กินแล้วนี่หว่า.. 
            “กูขอโทษยุนกิพูดด้วยความรู้สึกผิด 
            “เห้ยพี่ไม่เป็นไร ตอนแรกกะว่าจะเอาใส่ตู้เย็นไว้กินวันอื่นไง แต่ดันปวดหัวสลบไปก่อน..มั้งเขาโกหก 
            “แล้วมึงร้องไห้ทำไมยุนกิถาม แต่เมื่อเห็นน้องทำหน้าไม่เข้าใจจึงขยายความ กูเห็บคราบน้ำตามึงวันนั้น 
            “อ๋อ~ ก็ปวดหัวไงโกหกอีกแล้วนะปาร์คจีมิน 
            แล้วทำไมไม่โทรมาบอก! จะได้รีบกลับร่าวขาวตะโกนขึ้นมาจนเขาสะดุ้งตกใจ 
            กะ ก็.. ไม่อยากรบกวนเวลาพี่อยู่กับแฟนนี่นาพูดถึงตรงนี้แล้วน้ำตาจะไหลแฮะ อดทนไว้น่าปาร์คจีมิน อดทนไว้ 
            ห้ะ?” หน้ายุนกิตอนนี้บ่งบอกว่างงมาก นี่ยุนกิไปมีแฟนตอนไหนว่ะ 
            “ก็วันนั้นผมได้ยินเสียงผู้หญิง.. 
            ยุนกิทำหน้าคิดไปพักหนึ่ง 
            อ่อ พี่ยุนอาอ่ะนะ?” 
            “....เออ จะยุนอายุนอียุนอูอะไรที่หายไปอยู่ด้วยกันทั้งอาทิตย์นั่นแหล่ะ 
            นั่นมันพี่สาวกู พี่สาวแท้ๆ ไอ่บ๊องยุนกิขำพร้อมกับยื่นมือเข้าไปยีผมน้อง 
            อ้าว! พี่สาว! อ้าว!!!!! 
            แล้วที่กูดราม่าเสียน้ำตาไปนี่เพื่ออะไร!!!!!!!! 
            แต่จะว่าไปพี่ยุนกิก็เคยพูดว่ามีพี่สาวเรียนอยู่อเมริกา แต่เขาก็ไม่เคยเห็นหน้า ก็เลยเข้าใจผิดไปอีก -*- 
            ไม่ทันที่ทั้งสองคนจะได้พูดอะไรกันต่อก็มีสมาชิกใหม่ที่ไม่คาดคิดเข้ามา 
            พี่สาวพี่ยุนกิ..!! ชื่ออะไรนะ ลืม -[]- 
            “ยุนกิ! ไม่บอกพี่เลยว่าอยู่ห้องไหน พี่ก็ถามหาไปดิ่!!” ร่างบางที่เข้ามาใหม่บ่นน้องชายตัวเองที่ทิ้งไปตั้งแต่จอดรถทั้งๆที่พี่ก็เพิ่งกลับมาจากบ้านวันแรก ไอ่เด็กนิสัยเสีย - - 
            “ขอโทษพี่ยุนอา ลืมอ่ะ ฮ่าๆๆๆ 
            อ่อ ชื่อพี่ยุนอา~ 
            “จิ๊!” หญิงสาวค้อนใส่น้องชายตัวเองก่อนที่จะหันไปมองคนที่กึ่งนั่งอยู่บนเตียงแล้วถลาเข้าไปหาจนจีมินตกใจ อ๊า~ น้องสะใภ้น่ารักจริงๆด้วย เหมือนที่ยุนกิบอกไว้เลย~” 
            ห้ะ น้องสะใภ้อะไร!? 
            จีมินทำหน้างงพร้อมกันหันไปมองรุ่นพี่ของตัวเองสลับกับพี่สาวเจ้าตัว 
            พะ..พี่ยุนอา!!” ยุนกิพูดพร้อมกับส่ายหน้าไปมาเบาๆ 
            อะ..อ้าว นี่ยังไม่ได้เป็นแฟนกันหรอ?” หญิงสาวทำหน้างง ก็ยุนกิบอกว่าชอบจีมินไม่ใช่หรอ?” 
            “พี่!!” <<ยุนกิ 
            “อะ..อะไรนะ!” <<จีมิน 
            ทั้งสองคนมองมาที่ผู้หญิงคนเดียวในห้อง คนนึงก็มองด้วยความตกใจ คนนึงก็มองด้วยความ..ยังไงดีละ เอาเป็นว่าน่ากลัว TT 
            เวรกรรม..ยุนอาก็นึกว่าจะเป็นแฟนกันแล้วนี่นา 
            ~ตือดือดึ๊ง ตือดือดือดึง ตึงตึง~ 
            พอดีกับเสียงจากโทรศัพท์มาช่วยชีวิตไว้.. 
            แม่โทรมาอ่ะ เดี๋ยวพี่ไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกดีกว่าเนาะ ^^” ว่าจบก็รีบออกไปจากห้องทันที 
            หลังจากที่พี่สาวของยุนกิออกไปจากห้อง จีมินก็หันมามองรุ่นพี่ของตัวเอง 
            หมายความว่าไงที่บอกว่ายุนกิชอบจีมิน.. 
            อะ..เอ่อ คือ.. 
....” ตอนนี้จีมินลุ้นจนใจเต้นแรงมากเลย ฮืออออ 
คือ..ยุนกิที่ตอนนี้กำลังอยู่ไม่สุขเพราะกำลังหาข้อแก้ตัว (แถ) แต่คิดไม่ออกจึงได้คิดว่าจะตัดใจบอกไปตามตรงเลย 
แมนๆตรงๆเลยก็ได้วะ!! 
เออ! กูชอบมึงอ่ะจีมิน!” 
จบคำพูดของคนตรงหน้า หัวใจจีมินที่เต้นแรงอยู่แล้วกลับแรงมากกว่าเดิมราวกับจะออกมาจากอก 
จริงดิ่!! จริงหรอวะ!! โฮรรรรร 
นะ..นานแค่ไหนแล้ว?” แต่บอกก่อนเลยถึงแม้จะดีใจแทบร้องไห้แค่ไหน เขาก็จะไม่แสดงอาการอะไรออกไปทั้งนั้น แก้แค้นที่อิพี่มันปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวมาตั้งหนึ่งอาทิตย์! 
แต่รู้สึกเสียงสั่นมือสั่นไปหมดเลยฮือออ แม่ ช่วยจีมด้วยยย T//////T 
ก็.. ประมาณอาทิตย์กว่าๆ..มั้งยุนกิเกาหลังคอตัวเองด้วยความประหม่า คือกูแค่ชอบมึงนะ มึงไม่ต้องอึดอัด แล้วก็ตอนนี้มึงไม่ต้องชอบกูก็ได้ เพราะเดี๋ยวกูจะจีบมึง 
หูยยย คนตรงไปอีกกก ตรงไปจีมินก็ต้านทานไม่ไหวดิ่~
จะว่าไปก็อยากรู้แฮะว่ารุ่นพี่ตรงหน้าจะจีบเขายังไง เห็นวันๆเอาแต่แกล้ง -*- 
แต่ผมมีคนที่รักแล้ว..พูดออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา 
ใคร.. แทฮยองหรอ?” 
พ่อมึงสิ่! 
มันมีผัวแล้ว!” ฉลาดไปหมดทุกเรื่อง ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องโง่ไม่เข้าท่าด้วยวะคนเรา หมดอารมณ์เขินเลยกู 
“อ่าว แล้วใครวะ..หน้าของยุนกิดูสลดลงไปทันตาจนทำให้เขาเริ่มรู้สึกผิด และหลบสายตามองมือตัวเองที่อยู่บนตัก 
ผมก็ไม่รู้นะเว้ยว่าทำไมถึงรักเขา รู้แค่ตอนเจอเขาวันแรกเขาเป็นคนที่ช่วยผมไว้ ให้ผมมีหอพักอยู่จนถึงทุกวันนี้ 
... 
เขาแกล้งผมทุกวันแต่ก็ห่วงใยผมที่สุด จนผมเริ่มหวั่นไหวแล้วก็รักเขาโดยไม่รู้ตัว
... 
หนึ่งอาทิตย์ที่เขามักจะไม่ค่อยอยู่ ผมก็โคตรเฟล เฟลจนกินไม่ค่อยได้ นอนไม่ค่อยหลับจนเป็นไข้เข้าโรงบาล 
... 
จนวันนี้ที่เขามาบอกว่าชอบผม ถึงมันจะไม่ได้เป็นความตั้งใจ แต่ผมก็โคตรดีใจเลยจีมินเงยหน้าขึ้นมามองรุ่นพี่ของตัวเองก่อนจะพูดต่อออกไป ผมรักพี่นะ พี่ยุนกิ 
จบคำที่จีมินพูด ยุนกิก็กอดคนตัวเล็กทันที ถึงจะเคยล้อว่ามันอ้วน แต่พอมากอดจริงๆจีมินกลับตัวเล็กมากจนไม่กล้ากอดแรงๆ 
ขอบคุณนะ ขอบคุณที่รักกู 
ทำไมต้องขอบคุณด้วยเล่า! ..แต่ก็ขอบคุณนะที่พี่ชอบผม 
ทั้งสองคนกอดกันอยู่สักพักใหญ่เพื่อซึมซับความอบอุ่นของกันและกันเงียบๆ ก่อนจะผละออกมา 
กูแสดงความรู้สึกไม่ค่อยเก่งยุนกิพูดขึ้นมา 
ผมรู้ ผมก็เหมือนกันว่าจบจีมินก็ยิ้มให้ 
แต่กูชอบมึงจริงๆว่ะจีมิน 
            ทั้งสองคนสบตากันสักพัก ก่อนที่ระยะห่างของใบหน้าพวกเขาจะลดลงจนไม่เหลือ ปากอิ่มของคนตัวขาวและปากซีดเพราะฤทธิ์ไข้ของคนบนเตียงประกบกันแนบแน่น ต่างคนต่างหลับตาแล้วปล่อยให้ความรู้สึกพาไป ปากของทั้งคู่ประกบกันเฉยๆอยู่สักพักก่อนที่คนตัวขาวจะกัดริมฝีปากของร่างเล็กเบาๆเพื่อให้อ้าปากก่อนที่จะส่งลิ้นร้อนเข้าไปในอวัยวะเดียวกันของคนตรงข้าม ลิ้นทั้งสองดูดดึงกันอยู่สักพักจนจีมินเริ่มเคลิ้มและนำมือของตัวเองไปคล้องคอพี่ไว้ ยุนกิจึงเอื้มไปกอดเอวคนบนเตียงหวังว่าจะดึงมาหาตัวเองเพื่อลดระยะห่างของตัวทั้งสองคนในขณะที่ปากและลิ้นยังคงไม่ห่างจากกัน 
            แต่.. 
            ฟึ่บ! 
            ยุนกิ! แม่บอ--” 
            พลั่ก! จ๊วบ! 
            เนื่องจากมีสมาชิกใหม่เข้ามา ทำให้พวกเขาคนตกใจผละออกจากกันทั้งที่ยังคงจูบกันอยู่ จนเกิดเสียงน่าอายออกมา 
            และเมื่อจีมินที่เห็นว่าใครเป็นคนเข้ามาก็อาย ล้มลงนอนและคลุมโปงทันที.. 
            ในส่วนของยุนกืที่โดนขัดจังหวะก็มองพี่สาวด้วยความหงุดหงิดเล็กๆ 
            พะ..พี่ขอโทษที่ขัดจังหวะ พี่ไม่รู้ งั้น.. พี่ไปก่อนดีกว่าเนอะยุนอายิ้มแหยๆพร้อมกับออกจากห้องไปเงียบๆ เหมือนทำอะไรก็ผิดเลยเราเนี่ย TT 
            “งื้อ~” เมื่อรู้ว่าพี่สาวของคนตัวขาวออกไปแล้วจีมินที่หน้าแดงเป็นลูกตำลึงก็ผละออกจากผ้าห่มพร้อมส่งเสียงออกมาเพราะเขินอาย 
            โอ๋ๆ ไม่เอาไม่ร้องดิ่ยุนกิพูดพร้อมกับเอามือไปลูบผมกันที่นอนอยู่แล้วหัวเราะเบาๆ 
            พี่ยุนกิ!!” จีมินโคตรอายเลยจริงๆนะเว้ย ไม่คิดว่าจะอายได้มากขนาดนี้ในชีวิต TT 
            “อายทำไมเราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ 
            ก็รู้ แต่อายอ่ะร่างเล็กตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา 
            แต่ว่า พูดถึงเรื่องเมื้อกี้..ยุนกิพูดเกริ่นออกมาก่อนที่จะหยุดไปซักพักหนึ่งทำให้จีมินสงสัย เราจูบกันแสดงว่าเป็นแฟนกันแล้วเนอะ^^” 
            จูบกันแล้วแสดงว่าเป็นแฟนกัน.. ตรรกะไหนของพี่วะเนี่ย! 
            แต่ก็.. 
            “อืม -//////-” 
            “ไหนมากอดอีกทีดิ้ยุนกิอ้าแขนกว้างเพื่อรออีกคนลุกขึ้นมารับอ้อมกอดด้วยรอยยิ้มที่สดใส 
            อื้อ 
            จีมินจึงลุกขึ้นนั่งพร้อมกับเข้าไปกอดอีกคนด้วยหัวใจที่เต้นรัวทันที


..จากตอนแรกที่ได้แค่คิดว่า คงดีถ้าเธอคิดเหมือนกันมันไม่ได้เป็นแค่ความคิดแล้วนะ.. 
จีมินดีใจที่สุดเลย~





__________________________

#HappyJMday!!!! 
เซย์ไฮอาร์มี่ทุกคนที่เข้ามาอ่าน ซึ่งจะมีรึเปล่าก็ไม่รู้ TT
เนื่องในวันเกิดยัยก้อนเมนเราในบังทัน 
บวกกับไปฟังเพลงนึงแล้วสปาร์กเข้าพล็อตฟิคเด้งขึ้นมา 
และอีกอย่าง พีตัมนุนมุลมันดีงามมากเลยค่ะสังคมมมมมม
ผู้ชายก็ดี แถมมีโมเม้นกันอีกต่างหาก ร้องไห้ด้วยความปริ่มอยู่หน้าจอเลย
นั่นแหล่ะค่ะ ทุกๆอย่างผสมรวมกันจึงเกิดเป็นผลงานนี้แหล่ะค่ะทุกคน
มีความเว่นเว้อเพ้อเจ้อมาก แต่อยากจะบอกว่าร้าก~ #ผิดๆ 
เอาเป็นว่าไรท์คนนี้ mintspirit07 ขอฝากฝังฟิคบังทันเรื่องแรกของเราไว้ในความทรงจำด้วยนะคะ~
ถ้ามีอารมณ์จะมาแต่งเรื่องใหม่ ฮ่าาาาาา 
เม้นเป็นให้เราได้นะ ติหรือชมได้หมดเลย 
"เราชอบเม้นแย่ๆ มากกว่าโนคอมเม้นนะ" (by cypher pt.4)
ไม่ใช่ว่าคราวนี้มาเม้นแย่หมดเลยทำไงเนี่ย 55555555 ล้อเล่นค่ะ ><
สุดท้ายนี้หากมีอันใดผิดพลาดขออภัยมาณที่นี้ด้วยนะคะ ไม่ได้แต่งมาครึ่งปีแล้วจึงขัดๆนิดหน่อย ขอโทษน้า
ปล.พูดคุยกับไรท์ได้ที่ทวิตเตอร์ @mintspirit07 นะคะ 
บายยยย จุ๊ป~ <3
สกรีมได้ที่แท็ก #ficOSPR นะคะ