วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559

[SF] (Gyuwoo) IF.. : 2

2

[SUNGKYU PART]

“ซองกยูโอปป้า เราเลิกกันเถอะ”

เสียงของโชรงกระทบโสตประสาทของผม คำที่ผมกลัวว่าเธอจะพูดออกมาตลอด แต่น่าแปลกที่พอเวลาเธอพูดออกมาจริงๆ ผมกลับรู้สึกแค่ ผิดหวัง เสียใจ แต่ไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่ที่น่าแปลกกว่านั้นอีกคือ มีหน้าของอูฮยอนแทรกขึ้นมา พร้อมกับรู้สึกโล่ง เหมือนถูกปลดปล่อย ทำไมกันล่ะ? ผมรักและแคร์โชรงไม่ใช่หรอ?

“ทำไมล่ะ” ผมถามออกไป

“ฉันเหนื่อยอ่ะ เหนื่อยที่ต้องทะเลาะกับพี่ ตามหึงพี่ เพราะพี่ป๊อปเกินไป แต่เรายังไม่ถึงขั้นที่จะต้องเกลียดขี้หน้ากันหลังจากเลิกกันนะ เพราะเราไม่ได้มีอะไรล่วงเกินกันมากกว่าแค่จูบครั้งเดียวเองนี่นา” โชรงเดินเข้ามากอดผมสักพักหนึ่ง ผละออกแล้วยิ้มให้ “เรายังเป็นพี่น้องกันได้นะคะ” 

เห็นดังนั้นผมจึงยิ้มตอบ พร้อมกับลูบผมเธอเป็นครั้งสุดท้าย “อื้ม เรามาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมนะ” 

“อื้ม^^ ฉันไปก่อนน้ะ บ๊ายบาย”

     เมื่อพูดเสร็จ โชรงก็เดินออกไปแล้ว แต่ผมยังคงอยู่ที่เดิม ยังคงทบทวนกับความรู้สึกของตัวเอง ก็ได้ผมสรุปว่า บางทีผมคงจะรักโชรงจริงๆนั่นแหละ ถึงได้แคร์ แต่มันคงไม่ใช่ความรักแบบชาย-หญิงล่ะมั้ง คงจะรักแบบพี่-น้องมากกว่า แต่ก็ยังสงสัย..ว่าทำไมถึงได้มีหน้าของอูฮยอนโผล่ขึ้นมาตอนนั้น ...โอ้ย! คิดไม่ออก อยากดื่ม 

     เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงโทรบอกดงอู คงสงสัยสิ่นะว่าทำไมถึงต้องโทรบอก ผมดื่มคนเดียวไม่ได้หรอก เพราะทุกครั้งที่ผมได้ดื่มแล้ว ผมมักจะหยุดตัวเองไม่ได้ แล้วก็จะเมา ผมเลยต้องโทรบอกไว้ก่อน ให้ลากกลับหอไง ฮ่าๆๆๆ

     <ยอโบเซโย>

     “ดงอูยา ฉัน..เลิกกับโชรงแล้วนะ” ผมแกล้งทำเสียงเศร้าให้ดงอูเป็นห่วง “ฉันไปดื่มที่ร้านxxxนะ” หลังจากนั้นก็กดวางสายทันที 

     ทุกคนรู้ม้ย ทำไมผมถึงโทรหาดงอู เหตุผลที่ผมเลิกโทรหาดงอูเพราะมันหลอกง่าย ขี้สงสาร ไม่พูดมาก แสนดี แต่ถ้าผมโทรหาคนอื่น ผมคงโดนซักก่อนจะได้วางสายเมื่อกี้แล้วล่ะ

     ผมเดินไปร้านเหล้านั้นเพราะมันอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ที่ผมอยู่มากนัก เมื่อไปถึงผมก็สั่งโซจู*ทันที นั่งดื่มอยู่คนเดียวก็คิดไปด้วยว่า ทำไมตอนเลิกกับโชรง ถึงมีหน้านัมอูฮยอนขึ้นมาแล้วรู้สึกสบายใจ ทำไมถึงต้องรู้สึกสบายใจด้วยล่ะ ผมคิดไม่ตกเรื่องนี้จริงๆนะ! โอ้ย ยิ่งคิดไม่ออกยิ่งอยากดื่มๆๆๆๆๆ

     ผมนั่งดื่มอยู่อีกพักใหญ่ๆก็เห็นว่าอินนฟินิทมาแล้ว มากันครบองค์ประชุมเลยด้วย โวะ เมเนเจอร์ก็มาด้วยครับ #ปรบมือ ถ้าผมไม่เมาจนเกินไป คือผมจำได้ว่าผมเรียกแค่ จางดงอู คนเดียวนะ ไหงมากันหมดเลยล่ะ แต่พอมองดูดีๆ ...เอ ไม่หมดนี่นา นัมอูฮยอนตัวปัญหาไม่มาแฮะ ‘^’ 

     “ฮยอง! เลิกกับโชรงแล้วจริงดิ่!” อีซองจงเดินเข้ามาแล้วตะโกนถามเสียงดัง

     อื้อหือ เจอหน้ากันปุ้ป ถามกันแบบนี้เลยหรอ ถ้าคนที่เลิกกับแฟนไม่ใช่ผมแล้วเป็นคนอื่นที่เพิ่งเลิกกับแฟนคงร้องไห้ไปแล้วมั้งนั่น 

     “ย๊า อีซองจง ปากเสีย” ซองยอลปรามออกมา

     “ก็อยากรู้อ่ะ”

     “เดี๋ยวค่อยถามก็ได้ ไอ่น้องบ้า คนที่มากินเหล้าเพราะเลิกกับแฟนนี่คงอยากจะได้ยินแกตอกย้ำแผลเค้ามากสิ่นะ - -+”

     “แต่.. จริงหรอฮยอง” โฮย่าทำใจดีสู้เสือ(?)ถามขึ้นมา

     “อืม” ผมตอบไปโดยง่ายดาย เพราะไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากอยู่แล้ว แล้วก็ยกแก้วโซจูดื่มต่อ

     “เอ้ย ฮยอง พอแล้วน่า พรุ่งนี้ต้องทำงานตอนเช้านะ เดี๋ยวก้แฮงค์หรอก” ซอลยอลห้าม แต่ผมหรอจะฟัง

     ยกแก้วดื่มต่อไป

     “ซองกยูฮยอง ไม่เป็นห่วงตัวเองหรือไง” มยองซูถามขึ้นมา

     “ม่ายอ่ะ” ผมตอบ แล้วก็ยกดื่มต่อ

เงียบไปสักพัก อยู่ดีๆซองยอลก็มาหยิบขวดโซจูไป “เฮ้ย! เอาคืนมา!” แล้วผมก็คว้าขวดเอาไว้บ้าง แย่งกันไปแย่งกันมา กลายป็นศึกแย่งขวดระหว่างอินฟินิท แย่งกันจนไม่เห็นว่ามีอีกคนกำลังเดินเข้ามาหา

“ซองกยูฮยอง..” หือ ใครเรียก

ผมหันไปหาตามเสียงเรียกก็พบว่าเป็นนัมอูฮยอน เมื่ออูฮยอนเห็นผมดูตกใจมาก หือ ทำไมอ่ะ สภาพผมทุเรศขนาดนั้นเลย?

“ฮยอง พอเถอะ กลับหอกัน” อูฮยอนพูดแกมอ้อนวอน 

ฮิ น่ารักดีแฮะ แกล้งทำเสียงเป็นเมาดีก่า ^^

“ม่ายอาว จากี..!” 

อูฮยอนคุกเข่าลงมากอดผมพร้อมกับขอร้อง “ขอร้องล่ะนะ กลับหอกันเถอะฮยอง”

ตึก ตัก ตึก ตัก 

ทะ ทำไมใจผมถึงเต้นดังขนาดนี้ล่ะ ผมเป็นอะไรไป โรคหัวใจรึเปล่า ผมต้องรีบไปหาหมอมั้ย อูฮยอนได้ยินมันหรือเปล่า

“อืม กลับก็ได้” เนื่องจากผมหัวใจเต้นเร็วเกินไปหรอกนะ ถึงได้กลับ เพราะถ้ากินเข้าไปอีกอาจจะเกิดผมข้างเคียงที่ไม่ดีได้ ไม่ใช่เพราะนัมอูฮยอนหรอก! (ใช่มั้ย?)

ได้ยินดังนั้นอูฮยอนจึงยิ้มให้ผม พร้อมกับพยุงผมไปยังรถตู้ที่คาดว่าอินฟินิทคงมากันคันนี้แหละ

ถึงแล้วผมจึงเข้าไปที่ที่นั่งของตนเอง ..จะว่าไป วันนี้ผมก็ดื่มไปเยอะเหมือนกันนะเนี่ย เริ่มง่วงแล้วแฮะ งืมๆ
.
.
.
.
“ซองกยูย่า ตื่นได้แล้ว” 

ผมลืมตามาดูว่าใครเรียก ก็พบว่าเป็นพี่เมเนเจอร์ ..อ่า นี่ผมคงหลับไปจนถึงเช้าเลยสิ่นะ 

“โอ้ย!” ผมพยายามลุก แต่ผมปรากฏว่าหนักหัวมาก เลยทำให้ลงไปนอนอีกครั้งนึง ผมคงแฮงค์แน่เลย โอย

“เห็นมั้ยล่ะ เป็นไง ปวดหัวดีมั้ย เมื่อวานทุกคนห้ามก้ไม่ฟัง” พี่เมเนเจอร์ดุ “ธรรมดานายจะต้องเป็นคนไปปลุกคนอื่น แต่วันนี้ยกให้ เห็นว่าแฮงค์ จัดการตัวเองไปละกัน สมาชิกที่เหลือเดี๋ยวไปปลุกเอง จัดการตัวเองเร็วๆล่ะ ตารางงานเริ่ม เจ็ดโมงนะ” บ่นเสร็จแล้วก็เดินจากไป

โอย ปวดหัว แต่บ่นอยู่อย่างนั้นก็คงไม่มีประโยชน์ คิดได้ดังนั้นผมจึงลุกไปกินน้ำเปล่าเยอะๆ กับพาราซักเม็ด(วิธีส่วนตัว ใครอยากลองใช้วิธีนี้แก้แฮงค์ก้ได้นะครับ) แล้วเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว ไปทำงานได้!
.
.
.
วันนี้วันหยุด(อีกแล้ว)ของพวกเราอินฟินิท ผมอยากจะพิสูจน์อะไรสักหน่อยเกี่ยวกับนัมอูฮยอน วันนี้ ผมจึงมีแพลนจะไปช้อปปิ้งกันในวันหยุดนี้ เพราะนัมอูฮยอนเองก้ไม่ค่อยชอบอยู่หออยู่แล้ว

“อูฮยอนอา แต่งตัวเสร็จยังเนี่ย”

“.....”

  เนื่องจากเคาะประตูเรียกแต่ก็ไม่มีเสียง จึงเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นว่าอูฮยอนกำลังใส่เสื้ออยู่ แต่ใส่ไม่ลง มือดิ้นดุกดิกอยู่ในเสื้อ ฮ่าๆ ภาพที่เห็นมันตลกจริงๆเลย

“ให้ช่วยมั้ย อูฮยอนอา”

“อื้อๆ อ้วยอ๋มอ้วย” พูดไปด้วยพร้อมกับพยักหน้าหงึกๆ

ผมจึงช่วยเข้าไปดึงเสื้อของอูฮยอนให้ลงมาใส่แบบปกติ แต่เมื่อดึงเสื้อลงมาแล้ว ระยะห่างระหว่างเราสองคนที่ใกล้กันอยู่แล้วทำให้หน้าของเราอยู่ใกล้กันมาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนมันคงไม่อันตราย แต่ตอนนี้ ผมรู้สึก...

“ซะ ซองกยูฮยอ..!”

คำพูดจางหาย เมื่อริมฝีปากของผมลงไปปะทะกับริมฝีปากอุ่นของอีกฝ่ายเบาๆ เนิ่นนาน แต่ไม่มีใครล่วงเกินเข้าไปมากกว่านั้น จนกระทั่งผมถอนออกมา

“ขอโทษนะ” ผมบอกพร้อมกับทำหน้าสำนึกผิด ไม่น่าเลยจริงๆ ทำไมไม่รู้จักควบคุมตัวเองซะบ้างนะซองกยู! “ฉันขอโทษ จริงๆ”

“มะ ไม่เป็นไรหรอกครับ เราไปเที่ยวกันดีกว่าเนอะฮยอง~” อูฮยอนพูดอย่างสดใสพร้อมกับลากแขนของเขาไปที่รถเมเนเจอร์ที่คราวนี้ไม่ได้โขมย แต่ยืมมา

ผมขับรถพร้อมกับพูดคุยกับอูฮยอนไปด้วยเหมือนปกติ ต้องขอบคุณความสดใสของอูฮยอนนะ ที่ทำให้ผมแย่น้อยลง 

ผมขับมาจนถึงห้างประจำที่พวกเรามาบ่อยๆ เพราะห้างนี้ดาราเซเลบมาเดินมากมายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คนที่มาเดินที่นี่ประจำก็เลยเจอดารา นักร้องบ่อยๆ เลยไม่ตื่นเต้นกันแล้ว ซึ่งก็ดี จะได้ไม่ต้องมานั่งปลอมตัวให้ลำบาก

“ฮยอง ผมอยากเล่นbump it upอีกแล้วอ๊า” อูฮยอนพูด พร้อมกับทำตาวาวไปที่เครื่องเล่นนั้น

“เฮ้ย ไม่เอาแล้ว เล่นไม่เป็น” ผมรีบปฏิเสธทันที คราวที่แล้วเล่นขาแทบจะพัง

“ฮยอง~” 

“อ้อนอีกแล้วนะ” แล้วใจผมก็เต้นแรงอีกแล้ว ทุกครั้งเลย

“นะฮยองน้า ผมมีอะไรจะให้ฮยองดูด้วยละ~” 

พูดจบอูฮยอนก็ลากผมไปที่เครื่องเล่นนั้นทันที ‘อ้าว แล้วตอนแรกจะถามผม อ้อนผมให้ใจเต้นแรงทำไมวะ ไอ้ตัวแสบ’

อูฮยอนหยอดเหรียญลงไปสี่เหรียญเหมือนกันครั้งที่แล้ว พร้อมกับขึ้นไปเหยียบๆอะไรสักอย่างบนนั้นวนไปมา แล้วก็กลายเป็น full mode 

“ทำอะไรน่ะ อูฮยอน” ผมถามออกไป ผมไม่รู้เลยว่าไอ้เครื่องนี้มันจะมีอะไรเยอะแยะเต็มไปหมดอย่างนี้

“ผมจะให้ฮยองดูอะไรไง” 

อูฮยอนเลื่อนไปเรื่อยๆจนถึงเพลง ..be mine ของพวกเรา 

“โอ้ะ! มีด้วยหรอ” ผมพูดพร้อมกับตาโต(?) “ฉันไม่รู้มาก่อนเลย ว่ามีเพลงของพวกเราด้วย” 

“ฮ่าๆ ใช่มั้ยล่ะฮยอง ผมเก่ง”

“ครับๆ อูฮยอนเก่งมา..!!!!!” 

     อูฮยอนเข้ามากอดคอและหอมแก้มผม แล้วกดเริ่มเกมทันที ถึงแม้จะแค่เสี้ยววินาที แต่มันทำให้ใจของผมเต้นแรงมาก จนไม่มีสมาธิเล่น มือก็ยังคงจับตรงที่ที่โดนหอมแก้ม จนจบตลอดทั้งสี่เพลง ผมก็ไม่มีสมาธิเล่นเลย

     “ฮยอง~ ไปกินข้าวต่อกัน~” อูฮยอนพูดพร้อมกับเตรียมจากลากผมไปอีกครั้ง

     “อย่าพึ่งๆ ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” ขอ..เข้าไปทบทวนตัวเองก่อน

     “อ่อ ครับๆ งั้นผมนั่งรออยู่ตรงนั้นนะ” อูฮยอนชี้ไปที่เก้าอี้ตรงสวนหย่อมกลางห้าง

     “อืมๆ เดี๋ยวมานะ แป๊ปเดียว” ผมพยักหน้ารับคำ แล้วเดินตรงไปที่ห้องน้ำทันที

     เมื่อมาถึงห้องน้ำผมก็มายืนทบทวนตัวเองอยู่หน้ากระจก ที่ผมใจเต้นแรงขนาดนั้น มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ กับแฟนคนที่ผ่านๆมา จูบ.. ยังไม่ทำให้ผมใจเต้นแรงเท่ากับที่อูฮยอนหอมแก้มเลย ผมรักอูฮยอนแบบที่มยองซูบอกจริงๆหรอ..


     ย้อนกลับไปสองคืนก่อน

     ก๊อกๆ 

     “ฮยอง ขอเข้าไปหน่อย” 

     ในขณะที่ผมกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ เมื่อได้ยินว่าเป็นเสียงมยองซูเรียกจึงสะดุ้งนิดหน่อย แล้วเดินไปเปิดประตู 

     “มีอะไร” ผมถามออกไป

     “โอ้ยฮยอง ขอเข้าไปก่อนเหอะน่า แล้วจะล้อคประตูทำไมเนี่ย ดูหนังโป๊อยู่ไง?” มยองซูบ่นกระปอดกระแปดพร้อมกับเตือนเข้ามานั่งที่เตียงกลางห้อง

     ผมจึงปิดประตูแล้วเดินตามเข้ามานั่งอยู่บนเตียง (อย่าคิดลึกนะ เรื่องนี้มิใช่มยองกยู) พร้อมกับตบหัวไปทีขอหากวนส้นเท้า

     “โอ้ยฮยอง ตีทำไมเนี่ย เจ็บนะ ผมเป็นหน้าตาของวงด้วยนะเว้ย” แล้วไอ่มยองซูก็บนอีกแล้ว ประเด็นคือเกี่ยวอะไรกับหน้าตาของวงวะ เรื่อยเปื่อยจริงๆ

     “กวนตีน” ผมบอกไปตามเหตุผลจริงๆ

     “โอ้ยฮยองหนิ่ ..พอๆ มาเข้าเรื่องดีกว่า”

     “...?”

     “ฮยองคิดยังไงกับอูฮยอนฮยอง”

     “หะ?”

     “ฮยองรักอูฮยอนฮยองมั้ย?” มยองซูถามพร้อมกับทำหน้าจริงจัง ..ไม่เล่นสิ่นะ

     “รักสิ่ ไม่ใช่แค่อูฮยอน แต่ฉันก็รักพวกนายทุกคน” 

     “ไม่ใช่รักแบบนั้น ผมหมายถึง รักแบบแฟน แบบคนรัก”

     “....”

     “ฮยอง.. รักอูฮยอนฮยองรึเปล่า?”

     “...ฉันไม่รู้ ฉันคิดเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วมยองซู ฉันไม่รู้จริงๆ” ผมตอบไปตามความรู้สึกของผมจริงๆ ความไม่เข้าใจนี้ ขอให้ระบายให้ใครฟังสักคนก็ยังดี

     “ฮยอง ฮยองรู้สึกมีความสุขที่อูฮยอนฮยองอยู่ข้างๆมั้ย?”

     “อืม มีความสุขสิ่”

     “รู้สึกโกรธเค้าที่ให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าเรามั้ย?”

     “ไม่ถึงกับโกรธ แต่แค่งอนน่ะ”

     “รู้สึกใจเต้นแรงเวลาอยู่ใกล้เค้าเกินไปมั้ย?”

     “....” ..ใจเต้นแรงหรอ เหมือนตอนที่อูฮยอนกอดผมตอนที่เมาน่ะหรอ

     “....” 

     “อืม จะว่าไปก็ แรง”

     “นั่นแหละฮยองรักอูฮยอนฮยอง” พูดเสร็จก็เดินออกจากห้องผมไปเลย แต่ก็ยังไม่วายกวนส้นเท้าด้วยการส่งจูบก่อนไป ‘ไอ่น้องคนนี้จริงๆมันกวนตีนกว่าอีโฮวอนอีกนะ จะบอกให้’

     มยองซูกลับไปแล้ว ผมก็กลับเข้าห้วงแห่งความคิดของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง 

     นั่นแหละฮยองรักอูฮยอนฮยอง

     นั่นแหละฮยองรักอูฮยอนฮยอง

     นั่นแหละฮยองรักอูฮยอนฮยอง

     คำนี้ มันยังคงอยู่ในหัวของผมตลอด...


     ผมเดินกลับออกมาจากห้องน้ำ ที่เข้าไปนานนิดหน่อย ผมกำลังเดินกลับไปหาอูฮยอน ผมมั่นใจแล้วตอนนี้ ว่าผมรู้สึกยังไงกับอูฮยอน..

     ..ว่าแต่ อูฮยอนไม่อยู่ที่เก้าอี้ตัวนั้น ..หายไปไหนน่ะ!!!


[END SUNGKYU PART]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น